ปอศ.ลุยภาคเหนือทลายแก๊งหลอกกู้เงินออนไลน์เครือข่ายนายทุนต่างชาติ เผย 1 ปี ตุ๋นคนไทยกว่า 160 ล้านบาท
วันนี้ ( 5 ก.ย.) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม น.ส.ณัฐสิมา อายุ 21 ปี ,นายกวินท์ อายุ 29 ปี และ นายจิรัฏฐ์ อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” หลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุดในพื้นที่ จ.เชียงราย,พะเยา และ ลำปาง เพื่อกวาดล้างจับกุมแก๊งหลอกกู้เงินออนไลน์
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีมิจฉาชีพเปิดเพจเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อว่า “สินเชื่อเงินกู้ด่วน1” โพสต์ข้อความอ้างว่า สามารถปล่อยสินเชื่อโดยไม่เช็คเครดิต กู้ได้ทุกอาชีพ ดอกเบี้ยต่ำ แต่มีข้อแม้ว่าหากใครสนใจจะกู้เงินต้องโอนค่าธรรมเนียมมาให้ก่อน คิดเป็นร้อยละ 10 ของยอดเงินที่ต้องการกู้ เช่นกู้ 50,000 บาท จะต้องโอนไป 5,000 บาท อ้างเป็นเงินค้ำประกัน แต่เมื่อมีผู้หลงเชื่อโอนเงินไปให้กลับไม่มีการให้กู้จริง ตามที่ตกลงกันไว้ ก่อนจะตัดขาดการติดต่อหนีหายไป ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อจำนวนมาก สร้างความเสียหายเป็นเงินหลายล้านบาท
ต่อมาตำรวจ บก.ปอศ. ได้จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนพบว่า คนร้ายกลุ่มใช้บัญชีในการกระทำผิดจำนวน 8 บัญชี โดยแบ่งหน้าที่เป็น บัญชีที่ใช้รับโอนเงินจากผู้เสียหาย , บัญชีที่ใช้โอนเงินเป็นทอดๆ และบัญชีที่ใช้รับผลประโยชน์โดยถอนเงินออกและนำไปใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งภายในระยะเวลา 1 ปี มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 160 ล้านบาท จากการสืบสวนยังพบอีกว่าบัญชีที่รับผลประโยชน์สุดท้ายนั้นเป็นบัญชีของชาวต่างชาติ ซึ่งมีการตระเวนกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มบริเวณแนวตะเข็บชายแดนไทย- พม่า จำนวนหลายครั้ง ยอดรวมกว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังพบว่ามีการโอนเงินไปซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายรายการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 9 ราย ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายต่างๆ จนนำมาสู่การตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 รายได้หลบหนีไปกบดานอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีต่อไป
