"โกศลวัฒน์"รองอธิบดีอัยการ สคช. ยื่นมือช่วยแม่ค้าส้มตำ หวั่นตกเป็นบัญชีม้า ถูกคนร้ายอ้างโอนเงินผิดเข้าบัญชี 2,500 บาท จึงโอนคืนไปให้ 2,450 บาท ขณะที่ผู้เสียหายตัวจริง ถูกคนร้ายโกงค่าสินค้าแจ้งตำรวจสภ.คูคต ขอให้ชำระค่าสั่งซื้อโทรทัศน์ 2,500 บาท
กรณีแม่ค้าส้มตำรับชำระค่าสินค้าทางแอปมือถือเพียง 50 บาท แต่ลูกค้าบอกให้รอคนอื่นโอนมาให้ เมื่อมีคนโอนเงินมาถึง 2,500 บาท แล้วอ้างว่าเกินจำนวนขอคืน 2,450 บาท แม่ค้าจึงใช้เงินสดส่งคืนไป วันเดียวกันมีบุคคลอ้างว่าถูกหลอกโอนชำระค่าสินค้าแล้วไม่มีสินค้าจะขายจริงจึงให้แม่ค้าเจ้าของบัญขรที่รับโอน ให้โอนเงิน 2,500 บาท เข้าบัญชีผู้เสียหาย ซึ่งแม่ค้าตกใจไปแจ้งความแต่ตำรวจบอกว่าหากไม่อยากเป็นผู้ต้องหา "เปิดบัญชีม้า"ให้คืนเงิน 2,500 บาท แก่บุคคลดังกล่าวไป แม่ค้ากลุ้มใจเพราะมีรายได้เพียงวันละ 300 บาท
วันนี้ (19 ส.ค.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีสำนักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เปิดเผยว่า กรณีเป็นเรื่องคนร้ายหลอกผู้อื่นให้โอนเงินเข้าบัญชีคุณ แล้วหลอกคุณว่าโอนเงินผิด โอนเงินให้เกิน ขอคืนเป็นเงินสด
แม่ค้าขายอาหาร 50 บาท คนร้ายขอโอนจ่ายจากนั้นบอกว่าโอนเงินเกินมา จำนวน2,500 บาท ขอให้แม่ค้าส้มตำกดเงินสด คืนให้ 2,450 แม่ค้ากดตู้เอทีเอ็มคืนให้ไป 2,450 บาท ต่อมามีผู้ติดต่อแจ้งว่าบัญชีคุณรับโอนเงินจากการหลอกลวงขายโทรทัศน์จำนวนเงิน 2,500 บาทได้แจ้งความที่สน. เตาปูนแล้ว
ตนเห็นว่า ลำพังแม่ค้ายืนขายอาหารอยู่หน้าร้านเซเว่น กลับถูกหลอกรับโอนเงินจากคนร้ายฉ้อโกงขายสินค้า แม่ค้าบอกว่าตำรวจบอกว่าให้โอนเงินไปคืนเขา 2,500 บาท แต่หนูจะเอาเงินที่ไหนคืน หนูกดเงินสดคืนคนร้ายไปแล้ว
ต่อมาแม่ค้ามาพบอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน จ.ปทุมธานี เพื่อขอคำแนะนำ ถึงกับร้องไห้ตลอดเวลา หนูจะทำยังไงดีขายส้มตำได้วันละ 400 บาท แต่ถูกหาว่าฉ้อโกงและโอนเงินเข้าบัญชีหนู อัยการจะแนะนำให้เล่าความจริงทั้งหมดให้ร้อยเวรทราบให้การโดยละเอียด ร้านเซเว่นที่ยืนขายของอยู่ก็ไปขอความกรุณา ขอภาพเพื่อยืนยันว่ามีคนร้ายตามภาพมาหลอกแม่ค้าที่หน้าร้านจริง และนำบัญชีที่รับโอนเงินไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบ รายการรับโอนเงินในบัญชีโดยละเอียดทุกรายการ ให้ทราบว่าปกติบัญชีนี้รับโอนมาแต่เงินค่าอาหารหน้าร้านแถมด้วยจากบริษัทที่วิ่งรับส่งอาหารอีกหลายบริษัท เพื่อยืนยันว่า ธุรกรรมแบบนี้การโอนเงินอย่างนี้มีครั้งเดียว คือจำนวนเงินที่คนร้ายฉ้อโกงมา 2,500 บาทจากการหลอกขายในเพจของคนร้ายและขอจ่ายให้แม่ค้าเป็นค่าอาหาร 50 บาท แล้วอ้างว่าโอนเกินขอให้กดเงินสดคืนตามความจริง
ตำรวจสภ.คูคต มีหน้าที่สอบสวนให้ได้ความจริง ความจริงจะต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายอัยการยินดีให้ความรู้แล้วนำไปปฏิบัติและควรไปแจ้งความที่โรงพัก ที่เกิดเหตุคือหน้าร้านอาหารที่แม่ค้าถูกหลอกให้เป็นบัญชีม้าและโอนเงินมาด้วยเพื่อติดตามคนร้ายมาลงโทษตามกฏหมายให้ได้ ความจริงย่อมเป็นความจริง ถ้าไม่ได้หลอกลวงโกงใครกฎหมายต้องให้ความยุติธรรมและคุ้มครอง สุจริตชน
ส่วนคนร้ายไปหลอกลวงขายสินค้าแล้วยังมาหลอกแม่ค้าขายอาหารให้รับโอนเงิน ตำรวจสน.เตาปูน ท้องที่เกิดเหตุ สอบสวนถ้าได้ความจริงเช่นนี้เพิ่มข้อหาได้เลยเพราะหลอกลวงทั้ง ผู้เสียหายที่ซื้อสินค้าและยังแม่ค้าขายอาหารให้รับโอนเงิน ต้องดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ และแนะนำว่าให้แม่ค้าเก็บหลักฐานต่างๆไว้ เช่นปกติมีรายได้จากขายส้มตำเท่าใด การโอนเข้ามามันผิดปกติจากที่ขายของทุกๆวันอย่างไร มิฉะนั้นคนดีสุจริตชนจะอยู่ยาก คดีนี้สำนักงานอัยการสูงสุดจะช่วยคลี่คลายจนถึงที่สุด