“อัจฉริยะ” แจ้งจับ ตำรวจ “ปอศ.- ชุด ฉก.ปราบลิขสิทธิ์ ตร.” สลับตัวผู้ต้องหา-ลดจำนวนของกลาง ช่วยเหลือนายทุนจีนสีเทาเจ้าของโกดังสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์พ้นคดี
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จตุภูมิ รักษาภักดี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปปป. เพื่อแจ้งเอาผิด เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปลป.ตร.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ.และพวก ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” หลังเชื่อว่าให้การช่วยเหลือ นายทุนชาวจีน เจ้าของโกดังสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ให้พ้นผิด
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวได้นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าจำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่ บางปู-บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นของนายทุนชาวจีน ก่อนตรวจยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ จำพวกลำโพงมาแชล, ยาปลุกเซ็กซ์ และ เครื่องสำอางต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แต่พอถึงขั้นตอนการทำบันทึกตรวจยึด กลับคงเหลือยอดของกลางเป็นสินค้าราคาถูกมูลค่ารวมเพียง 1.5 ล้านบาท อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา โดยการเอาคนงานก่อสร้างมารับโทษแทนเจ้าของหรือนายทุนตัวจริง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตแลกรับผลประโยชน์ จึงทำให้ตนต้องนำเรื่องและหลักฐานมาเข้าแจ้งเอาผิดกับเจ้าหน้าที่เหล่านี้
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับตัวนายทุนชาวจีนรายดังกล่าว ทราบว่าชื่อ นายซู เป็นกลุ่มทุนจีนสีเทา มีเงินทุนนับพันล้าน จากการทำธุรกิจขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ของเถื่อน และ ขายใบกำกับภาษีปลอม เปิดบริษัททั้งหมด 5 แห่ง โดยให้คนไทยเป็นนอมินีดูแล นอกจากนี้ ยังพบว่า หลังการเข้าตรวจค้น โกดังทั้งสองแห่งก็ยังคงเปิดทำการปกติ ไม่ได้ถูกปิดแต่อย่างใด เช่นเดียวกับตัวนายซู ที่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร อีกทั้งเจ้าตัวมักมีพฤติกรรมพูดอวดเบ่ง อวดอ้างว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ ตำรวจก็เป็นได้แค่สุนัขรับใช้ เพราะจ่ายเงินเคลียร์หมดแล้ว รวมไปถึงสรรพากรด้วยเช่นกัน จึงไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายอัจฉริยะ นำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
