xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” ยึดสินค้าแบรนด์เนมละเมิดลิขสิทธิ์ยี่ห้อดัง รวมมูลค่ากว่า 100 ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - “ดีเอสไอ” แถลงผลงาน 3 คดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้ง กระเป๋าแบรนด์เนม-โทรศัพท์ไอโฟน เข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงิน มูลค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

วันนี้ (11 ส.ค.) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มอบหมายให้ นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.สตพงษ์ เชื้อมหาวรรณ รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมด้วย ผู้แทนจากหน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigations : HSI) ที่ร่วมประสานข้อมูลจากต่างประเทศ แถลงผลงานคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 3 เรื่อง

พ.ต.ต.สตพงษ์ กล่าวว่า 1.คดีลักลอบจำหน่ายสินค้าประเภทกระเป๋าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “Morn Shop” และมีพฤติการณ์ส่งขายสินค้าดังกล่าวไปยังต่างประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางสายการบิน ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ได้ยาก แต่ก็มีช่องทางให้เล็ดลอดขนส่งไปได้ จึงได้ประสานความร่วมมือกับหน่วย HSI จนทราบว่า กลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “Morn Shop” ดังกล่าว มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “Morn Shop live Thailand” มีแอดมินทำหน้าที่ผู้ดูแลกลุ่ม และมีการโพสต์รูปภาพ เสนอจำหน่ายสินค้าประเภทกระเป๋าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าหลายยี่ห้อ โดยสกรีนไม่ให้ลูกค้าคนไทยเข้าดู อนุญาตเฉพาะลูกค้าต่างชาติในอเมริกา ใช้ข้อความภาษาอังกฤษและเสนอราคาเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ในราคาตั้งแต่ 75-250 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,550-8,500 บาท ทำให้หลุดรอดจากเจ้าหน้าที่มาตลอด เบื้องต้นพบส่งออกปีละหลักหมื่นชิ้น

กระทั่งวันที่ 3 ส.ค.66 ได้นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าทำการตรวจค้นสถานที่ลักลอบเก็บและจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า รวมจำนวน 6 จุด ในหมู่บ้าน 2 แห่ง ที่บริเวณหมู่ 2 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยมีตัวแทนสินค้า เข้าร่วมตรวจสอบและนำชี้สินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า และมีเจ้าหน้าที่ของหน่วย HSI ประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมสังเกตการณ์

ผลการตรวจค้น พบสินค้าประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกาและสินค้าอื่นที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของผู้เสียหายรายต่างๆ เช่น ชาแนล (Chanel) หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) กุชชี่ (Gucci) ดิออร์ (Dior) เบอเบอรี่ (Burberry) เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่างการรอจัดส่งให้กับลูกค้า รวมจำนวนประมาณ 7,000 กว่าชิ้น มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท จึงได้ยึดสินค้าดังกล่าวเป็นของกลางเพื่อตรวจสอบและนำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในความผิด ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป

2.กรณีกลุ่มเครือข่ายคนไทยร่วมกับคนจีนลักลอบนำเข้าและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ iPhone ปลอมจากประเทศฮ่องกง และอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือที่มีลักษณะปลอมเครื่องหมายการค้า Apple โดยใช้อะไหล่เมนบอร์ดรุ่นเก่า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มาประกอบให้เป็น iPhone 14 แล้วส่งจำหน่ายอ้างเป็นสินค้ามือสองสภาพดี หรือสินค้าหิ้วจากต่างประเทศ ราคาถูกจูงใจลูกค้า มีการเครมประกัน แต่ใช้ไปได้ไม่กี่เดือนเครื่องก็เสีย โดยเป็นเครือข่ายรายใหญ่มีที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ ต่อมาได้ทำการสืบสวนพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้คอนโดมิเนียม ย่านเขตบางพลัด กรุงเทพฯ และร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในพื้นที่จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่จำหน่ายและเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า จึงได้ร้องขอต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเพื่อออกหมายค้นเข้าตรวจค้นพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 10 จุด และ จ.เชียงใหม่ จำนวน 2 จุด เป็นอาคารพาณิชย์ และห้างร้านซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายและเก็บสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ iPhone และอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือปลอมเครื่องหมายการค้า Apple

ผลการตรวจค้น พบสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือที่ปลอมเครื่องหมายการค้า Apple Oppo และ Vivo อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศที่มิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 จำนวนกว่า 50,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท จึงได้ยึดไว้ เป็นของกลาง และดำเนินคดีกับเจ้าของผู้ครอบครองตามกฎหมายต่อไป

3.กรณี บริษัท เจเค โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีพฤติการณ์ผลิต และจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ซึ่งได้รับแจ้งข้อมูลจาก บริษัท เฮอร์เมส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ว่ามีบุคคลมีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดโดยเป็นผู้ทำปลอมเครื่องหมายการค้า มีลักษณะเป็นผู้ผลิต จำหน่าย เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทกระเป๋าที่มีเครื่องหมายการค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ในลักษณะที่เป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังเกรดพรีเมียม เป็นสินค้าที่มีราคาสูง คือ ราคาชิ้นละตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าโดยเฉพาะชาวต่างชาติซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว

กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนพบว่า บริษัท เจเค โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ JK PRODUCTS INTERNATIONAL COMPANY LIMITED ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 351 หมู่ 3 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นแหล่งผลิต และจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าจริง เมื่อวันที่ 13 ก.ค.66 จึงได้ทำการตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวตามหมายค้น ผลการตรวจค้นพบสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า HERMES (แอร์เมส) Louis Vuitton (หลุยส์ วีตตอง) และยี่ห้ออื่นๆ พร้อมด้วยวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการผลิตสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าจำนวนมาก และได้มีคำสั่งอนุมัติให้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ที่ 64/2566

จากการสืบสวนพบว่า เจ้าของโรงงานที่ จ.ชลบุรี ได้ส่งหนังจระเข้ไปให้โรงงานฟอกหนังที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งผลิตเครื่องหนังให้กับสินค้าแบรนด์เนมยี่ห้อ HERMES ของจริง แต่ทางโรงงานสิงคโปร์ เห็นผิดสังเกตจึงแจ้งไปยังบริษัท HERMES ให้มาตรวจสอบเพราะสินค้ามีการผลิตเหมือนกัน ก่อนบริษัทยี่ห้อดังประสานดีเอสไอช่วยตรวจสอบจนทราบว่าโรงงานที่ จ.ชลบุรี สั่งทำสินค้าปลอมแบรนด์ดังกล่าวและจำหน่ายราคาสูง ตามออเดอร์ของลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ความผิดฐานละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือปลอมลิขสิทธิ์นั้นเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน ซึ่งจะต้องดำเนินคดีเพื่อตรวจสอบยึดทรัพย์ต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น