MGR Online - ทนายรณณรงค์ พาผู้เสียหาย ร้อง ก.ยุติธรรม ถูกบุคคลแอบอ้าง “บิ๊กโจ๊ก” หลอกร่วมลงทุนตัดเย็บเสื้อผ้าส่ง “กรมราชทัณฑ์-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 09.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้ นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องกรณี ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำผู้เสียหายกรณีถูกบุคคลแอบอ้างรู้จักกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลอกให้ร่วมลงทุนตัดเย็บเสื้อผ้าส่งกรมราชทัณฑ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาท
นายเอก (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักกับสามีภรรยาคู่หนึ่งแอบอ้างชักชวนลงทุน เมื่อเดือน พ.ย. 65 และเคยเดินทางไปที่บ้านของสามีภรรยาคู่นี้ พบลักษณะของบ้านเปิดเป็นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า อยู่ ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี มีเสื้อที่สกรีนชื่อเรือนจำหลายแห่งอยู่ภายในบ้าน และมีการตัดเย็บผ้าจริง โดยตัวภรรยาอ้างว่าตนเองตัดเย็บเสื้อให้กับทางสโมสรตำรวจ 3 แสนตัว และที่ได้งานนี้มาทำเพราะสามีเป็นที่ปรึกษาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งที่ชวนมาร่วมลงทุนเพราะอยากได้ทุนมาทำงาน ซึ่งมีออเดอร์จากหน่วยงานราชการจำนวนมาก
นายเอก เผยต่อว่า ตนเองร่วมลงทุนทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท เป็นการทยอยร่วมลงทุน โดยช่วงแรกโอนไปประมาณ 4 ล้านบาท ก็ได้ผลตอบแทนคืนมา 2 ล้านกว่าบาท ส่วนที่เหลืออ้างว่าจะคืนทุนให้ กระทั่งวันที่ 7 ม.ค. 66 เมื่อถึงกำหนดนัดกลับเงียบหาย และพบว่า ภรรยาไปอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จึงมาตามตัวสามีที่บ้าน จ.นนทบุรี กลับบอกว่าหย่ากันแล้ว และบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ บอกแต่เพียงว่าจะไปตามอดีตภรรยามาเคลียร์เรื่องนี้ให้ พร้อมยังบอกอีกว่าเป็นที่ปรึกษา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร
ด้าน ทนายรณณรงค์ ระบุด้วยว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดการฉ้อโกง ตามมาตรา 341 แต่สิ่งสำคัญคือ การฉ้อโกงครั้งนี้มีการแอบอ้างเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐ จึงจำเป็นต้องมาที่กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบ และอยากขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาชี้แจงด้วยว่า ผู้ที่ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน เป็นที่ปรึกษาของรอง ผบ.ตร. จริงหรือไม่
โดยวันนี้ผู้เสียหายมายื่นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีดังกล่าว ทางกระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร จากนั้นจะแจ้งรายละเอียดให้ผู้เสียหายได้ทราบต่อไป
ขณะที่ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว กรมราชทัณฑ์ ขอเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างในการว่าจ้างให้ผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้กับผู้ต้องขังภายในเรือนจำ หรือทัณฑสถาน ซึ่งกรมราชทัณฑ์ มีนโยบายการดำเนินงานที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน โดยในกรณีที่มีผู้เสียหาย เข้าขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์ ในครั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า ไม่ได้มีการจ้างงานในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด และหากเป็นการว่าจ้างหน่วยงานภายนอก จะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการทุกขั้นตอน
นายสิทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมราชทัณฑ์ จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อบุคคลที่เข้ามาแอบอ้าง หลอกลวงว่ากรมราชทัณฑ์จ้างงานให้ผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในทางธุรกิจ หากมีข้อสงสัยขอให้สอบถามมายังกรมราชทัณฑ์โดยตรง เพื่อจะได้ไม่เป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่ใช้หน่วยงานราชการในการหาผลประโยชน์เพื่อการกระทำผิดต่อไป
