xs
xsm
sm
md
lg

ราชทัณฑ์โต้ “ชูวิทย์” มโนในเรือนจำ มีห้อง VIP-สูบบุหรี่-นอนห้องแอร์ ยันดูแลผู้ต้องขังเท่าเทียม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



กรมราชทัณฑ์ แจกแจงหลัง “ชูวิทย์” ออกมาแฉ ยืนยันทุกเรือนจำไม่มีห้องนอน VIP เป็นเขตปลอดบุหรี่ และสามารถดูรายการทีวีตามที่กำหนดให้เท่านั้น พร้อมดูแลผู้ต้องขังตามสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน

วันนี้ (7 มี.ค.) นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวบนสื่อออนไลน์ประเด็นที่มีห้องนอน VIP เป็นห้องแอร์ สามารถสูบบุหรี่ รวมถึงการให้รับชมรายการโทรทัศน์ตามความพอใจ ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความเข้าใจผิดต่อการควบคุมดูแลผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ นั้น โฆษกกรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ดังนี้

1. การสูบบุหรี่ในเรือนจำ ก่อนปี พ.ศ. 2561 มีการอนุญาตให้ผู้ต้องขังสูบบุหรี่หรือยาเส้นได้ แต่จำกัดพื้นที่และเวลา เมื่อขึ้นเรือนนอนแล้วห้ามสูบโดยเด็ดขาด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2562 ได้มีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดเพิ่มเติมสถานที่ห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยกำหนดให้เรือนจำซึ่งเป็นสถานที่ราชการเป็นเขตปลอดบุหรี่และห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบในเรือนจำและยกเลิกการสูบบุหรี่ในเรือนจำโดยเด็ดขาด ไม่มีการจำหน่าย และเป็นเรือนจำปลอดบุหรี่ทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพของผู้ต้องขังเป็นสำคัญ หากมีการลักลอบเกิดขึ้นเป็นความผิดทางกฎหมายและผู้ที่ลักลอบนำเข้าจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยอย่างถึงที่สุด

2. ประเด็นเรื่องการมีแอร์สำหรับห้องนอน VIP ในเรือนจำ ขอเรียนว่า ห้องนอนของผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ เป็นห้องนอนพัดลมทั้งหมด ไม่มีแอร์ สำหรับห้องใดเป็นการเฉพาะโดยเด็ดขาด
​​
3. การรับชมรายการโทรทัศน์ ได้มีการจัดให้ผู้ต้องขังสามารถรับชมรายการต่างๆ ได้ ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะหลังขึ้นเรือนนอนหรือวันหยุด ตามที่ได้กลั่นกรองคัดเลือกรายการที่มีสาระประโยชน์ เพื่อพัฒนาความรู้และคลายความเครียด ตลอดจนมีการสวดมนต์พร้อมกัน เป็นประจำทุกวัน ไม่ได้มีผู้ต้องขังรายหนึ่งรายใดที่สามารถเปิดทีวีรับชมรายการได้เป็นการเฉพาะ

นายสิทธิ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนและทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่า กรมราชทัณฑ์ได้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง ตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องขังทุกคนพึงได้รับอย่างเท่าเทียมกันตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของเรือนจำ (SOPs) โดยคำนึงถึงกรอบของกฎหมายและหลักมนุษยธรรมมาโดยตลอด








กำลังโหลดความคิดเห็น