MGR Online - ตัวแทนผู้เสียหายถูก “กอล์ฟ โค้ชทรงเอ” หลอกชักชวนลงทุน ร้องดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ตามยึดทรัพย์สินคืน หวั่นช้าอาจโยกย้ายทรัพย์แก่บุคคลใกล้ชิด
วันนี้ (10 ก.พ.) เวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตัวแทนผู้เสียหาย ประมาณ 50 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษ กรณี นายกรวิชญ์ ลอยสูงวงศ์ หรือ “กอล์ฟ โค้ชทรงเอ” ชักชวนลงทุนผ่านหน้าเพจ Facebook , Facebook Live , กลุ่ม Line , Youtube มีการสร้างเพจ Line OA และมีการนัดพูดคุยพบประกับนักลงทุนรายใหญ่ เพื่อสอนวิธีการลงทุน โดยให้นักลงทุนนำเงิน (บาท) ไปซื้อเงิน (ดิจิทัล)(USDT,BUSD) ผ่านแพลตฟร์อม BINANCE หรือ BITKUB หรืออื่นๆ เบื้องต้นมีผู้เสียหายประมาณ 200 ราย มูลค่าความเสียหาย 500 ล้านบาท โดยมี นายสมเกียรติ เพชรประดับ ผอ.ส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์ กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง
นายบี (นามสมมุติ) ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก นายกรวิชญ์ หรือ “กอล์ฟ โค้ชทรงเอ” เปิดเพจเฟซบุ๊ก “ADE Bot 168” และกลุ่มไลน์ ชักชวนผู้เสียหายมาร่วมลงทุนสกุลเงินดิจิทัลและ BOT ตั้งแต่เดือน ก.ค.65 โดยช่วงแรกๆ สามารถถอนเงินได้ตามปกติ ปันผลวันละ 1% เช่น ลงทุน 1,000,000 บาท ถอนได้ 1,010,000 บาท ต่อมาลดเหลือ 0.7% กระทั่ง วันที่ 27 ธ.ค.65 ผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้และติดต่อผู้ต้องหาไม่ได้แล้ว จึงรู้ว่าถูกหลอกและรวมตัวกันแจ้งความตำรวจ แต่คดีมีความล่าช้าเพราะเจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจในเรื่องการเเลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล
นายบี (นามสมมุติ) เผยว่า วันนี้จึงมาร้องทุกข์ดีเอสไอเพื่อขอให้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษและติดตามยึดอายัดทรัพย์สินผู้ต้องหาเพราะทราบว่ามีเป็นจำนวนมากและอาจมีการโยกย้ายถ่ายเทไปยังบุคคลอื่น ซึ่งคดีมีความซับซ้อนเพราะมีการนำเงินบาทไปแลกเป็นเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี ยากแก่การติดตามตรวจสอบได้เพราะต้องใช้เครื่องมือพิเศษ ทั้งนี้ สำหรับผู้เสียหายแต่ละคนลงทุนไม่เท่ากัน มีตั้งแต่หลักหมื่นบาทถึงหลัก 10 ล้านบาท
“ส่วนตัวเองที่หลงเชื่อลงทุนเพราะผู้ต้องหาบอกว่าไม่มีค่าแนะนำเหมือนแชร์ลูกโซ่หากชวนคนอื่นมาร่วมลงทุน และช่วงแรกสามารถถอนเงินได้ปกติ รวมถึงเคยเจอพูดคุยกับผู้ต้องหาโดยตรงและคุยกันในเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว จึงมั่นใจแต่สุดท้ายโดนหลอก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เพจเฟซบุ๊กและช่องทางติดต่ออื่นๆ ได้ปิดหนีไปหมดแล้ว”