xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” ขยายผลเครือข่ายแอบอ้างล็อกหวยกองสลากฯ หลังศาลอาญาตัดสินจำคุก 20 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ดีเอสไอ แจงศาลอาญาพิพากษา “ขบวนการอ้างหวยล็อก” ร่วมกันปลอมเอกสาร ฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน จำคุก 20 ปี ยึดทรัพย์กว่า 20 รายการ มูลค่ามหาศาล จ่อขยายผลเพิ่ม

สืบเนื่องจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษมายัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ ที่แอบอ้างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการหลอกลวงประชาชนผ่านระบบออนไลน์ ว่า สามารถให้เลขล็อกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ ซึ่งไม่เป็นความจริงเป็นเหตุให้ประชาชนที่ถูกหลอกลวงเสียไปซึ่งทรัพย์สินและได้รับความเสียหายจำนวนมาก การกระทำดังกล่าวอันเข้าลักษณะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

จากการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 981/2564 เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 64 นั้น โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้กระทำความผิด พร้อมกับดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ฉ้อโกงประชาชน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปลอมหรือเป็นเท็จ และความผิดฐานฟอกเงิน” พร้อมกับได้มีการยึดอายัดของกลาง บ้านและที่ดิน รถยนต์ เงินสดกว่า 4 ล้านบาท ตลอดจนทรัพย์สินอื่นที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด วันนี้ (7 ก.พ.) ศาลอาญามีคำพิพากษาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.1951/2564 ว่า จำเลยมีความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรืออันเป็นเท็จ ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกให้เพื่อเบิกถอนเงินสดโดยมิชอบและฟอกเงิน” รวมจำคุก 46 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงให้จำคุก 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) และริบของกลางลำดับที่ 1 ถึง 11, 17, 22, 26 ถึง 32, 55, 88 ถึง 90 ตามบัญชีของกลางคดีอาญา ในส่วนทรัพย์สินอื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งข้อมูลให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามกฎหมายฟอกเงิน ต่อไป

โดยในขณะนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลกลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงดังกล่าว หากประชาชนรายใดถูกหลอกลวงในลักษณะเดียวกันและได้รับความเสียหายสามารถแจ้งข้อมูลเบาะแสมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ หรือ สายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ


กำลังโหลดความคิดเห็น