xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ก้าวไกลเปิดหน้ารบ ‘ยืน หยุด ขัง’ ฟื้นศรัทธา-เรตติ้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 25 มกราคม 2566 ตอน ก้าวไกลเปิดหน้ารบ ‘ยืน หยุด ขัง’ ฟื้นศรัทธา-เรตติ้ง



การจัดกิจกรรม ‘ยืน หยุด ขัง’ เกิดขึ้นมาประมาณ 2 ปีแล้ว นับจากมีการชุมนุมของ ‘คนรุ่นใหม่’ กลุ่มต่างๆ จากนั้นระดับแกนนำและผู้ชุมนุม ถูกดำเนินคดีกระทำความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ มาตรา 116

การจัดกิจกรรม ‘ยืน หยุด ขัง’ เป้าหมายเพื่อให้มีการ ‘ปล่อยตัว’ ผู้ถูกคุมขัง ที่ผ่านมามีการ ‘ประท้วงอดอาหาร’ ของแกนนำในเรือนจำ

เริ่มจาก ‘เพนกวิ้น’พริษฐ์ ชิวารักษ์’ เมื่อปี 2564 ที่อดอาหารประท้วง ขณะถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี ในคดี “ชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นานถึง 58 วัน

จากนั้นมี ‘นักกิจกรรม’ อีกหลายคนอดอาหารประท้วงขณะถูกคุมขัง เพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัว เช่น ‘รุ้ง’ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล , ‘ฟ้า’พรหมศร วีระธรรมจารี , ‘แฟรงค์’ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร เป็นต้น

ย้อนกลับไป เม.ย.2565 ‘ตะวัน’ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ สังกัดกลุ่มมังกรปฏิวัติ เคยประท้วง ‘อดอาหาร’ ขณะถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง หลังศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนประกันเธอ ในคดีตามมาตรา 112 กรณีไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จ เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวและประท้วงต่อกระบวนการยุติธรรม

ทั้งนี้ ‘ตะวัน’ ยุติการอดอาหารนาน 37 วัน หลังศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี โดยให้อยู่ในเคหสถานตลอด 24 ชั่วโมง และมีการให้ติดกำไล EM

ล่าสุดเมื่อ 16 ม.ค.2566 ‘ตะวัน’ และ ‘แบม’อรวรรณ ภู่พงษ์ ที่ถูกดำเนินคดีม.112 และ ม.116 ได้เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อยื่น ‘ถอนประกันตัวเอง’ โดยย้ำว่า เพื่อแลกกับ ‘อิสรภาพจอมปลอม’ ที่ศาลมอบให้ และเพื่อเรียกร้องให้ศาลปล่อยตัวผู้ต้องขังการเมืองทุกคน จากนั้น ‘ตะวัน-แบม’ ได้ประกาศยกระดับ ‘อดอาหาร’ เรือนจำ เมื่อ 18ม.ค.66 เพื่อย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง ได้แก่

1)ต้องมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ศาลต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงออกเป็นอย่างแรกมาก่อนสิ่งอื่นใด ต้องเป็นอิสระ ปราศจากอำนาจนำ ปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน และผู้บริหารศาลต้องไม่แทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดี
.
2)ยุติการดำเนินคดีกับประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม และการแสดงออกทางการเมือง
.
3)พรรคการเมืองทุกๆ พรรคต้องเสนอนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพ และการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยการยกเลิก ม.112 และ ม.116

ซึ่งทั้งคู่ยืนยันว่าจะไม่มีการยื่นขอประกันตัวและจะอดอาหารประท้วง จนกว่าข้อเรียกร้องทั้งหมดจะเป็นผล

การเคลื่อนไหวในเรือนจำคู่ขนวนนอกเรือนจำ ที่มีการจัดกรรม ‘ยืน หยุด ขัง’ ในพื้นที่ต่างๆ แต่ที่ถูกโฟกัส คือ บริเวณหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ แยกปทุมวัน ที่มีการจัดกิจกรรม 112 นาที 4 คืน โดยเมื่อวันที่ 23ม.ค.ที่ผ่านมา ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ‘ชัยธวัช ตุลาธน’เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล รวมทั้ง ‘

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานคณะก้าวหน้า และ ‘พรรณิการ์ วานิช’ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ได้มาร่วมกิจกรรมด้วย

การเคลื่อนไหวของ ‘ขั้วก้าวไกล-ก้าวหน้า’ มีจุดยืนตรงกับ ‘ผู้ชุมนุม’ ในทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ ม.116 ซึ่ง ‘สวนทาง’ กับพรรคการเมืองอื่นๆ แม้แต่พรรคขั้วเดียวกันอย่าง ‘พรรคเพื่อไทย’ ก็ไม่เอาด้วย ทำให้สถานะของ ‘พรรคก้าวไกล’ จึง ‘ไร้พวก’

แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะฐานเสียง ‘พรรคก้าวไกล’ มีความชัดเจนในเรื่อง ‘จุดยืน-อุดมการณ์’ ที่เป็นแนวทางหลักของพรรค ทำให้พรรคก้าวไกลเป็น ‘พรรคเชิงอุดมการณ์’ ที่เป็นตัวแทนของฐานเสียงที่มองการเมือง ‘เชิงโครงสร้าง’ หรือที่ถึงขั้น ‘สุดโต่ง’ นั่นเอง

สิ่งที่ ‘พรรคก้าวไกล-คณะก้าวหน้า’ ออกมาครั้งนี้ ก็สอดรับการ ‘ข้อเรียกร้อง’ ในข้อที่ 3 ของ ‘ตะวัน-แบม’ ที่ขอให้”พรรคการเมือง เสนอนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพ และการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยการยกเลิก ม.112 และ ม.116” นั่นเอง

ดังนั้นการต่อสู้ทั้งในเรือนจำ-นอกเรือนจำ จึงสอดรับกัน ที่หลายพรรคการเมืองไม่กล้าแตะข้อเรียกร้องเหล่านี้ เพราะเกรงจะโดนพิษถึงขั้น ‘ยุบพรรค’ ได้ ซึ่งที่ผ่านมา ‘พรรคก้าวไกล’ ก็พยายามหาจุดสมดุลในเรื่องนี้ ทำให้ ‘ปิยบุตร แสงกนกกุล’ เลขาธิการคณะก้าวหน้า เคยออกมาวิจารณ์พรรคก้าวไกล ในจุดยืนการแก้ไข มาตรา 112 เมื่อ พ.ย.2565 ที่มองว่าพรรคไม่ทำอะไรผ่านมาหลายเดือน ไม่มีการขยับเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม

โดยอ้างว่า ประธานสภาวินิจฉัยว่าขัด รธน. มาตรา 6 เพราะมีเหตุยกเว้นความผิด จึงไม่บรรจุเข้าสภาฯ แต่กลับใช้นโยบายแก้ไข ม.112 ไปหาเสียง พร้อมขอให้พรรคก้าวไกลทบทวนว่าอยากแก้ ม.112 หรือไม่ หรืออยากเอาเรื่องแก้ ม.112 มาหาเสียงกันแน่
.
‘ปิยบุตร’ มองอีกว่า ส.ส.ทำอะไรได้มากกว่าไปประกันตัว ,ไปสังเกตการณ์การชุมนุม ,ออกมารับหนังสือร้องเรียน หรือให้คณะกรรมาธิการพิจารณา ทั้งหมดนี้ได้หน้าข่าว แต่ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงใด
.
การออกมาร่วมชุมนุมครั้งนี้ของ ‘พรรคก้าวไกล’ พร้อมกับ ‘คณะก้าวหน้า’ จึงน่าจับตาอย่างยิ่ง ในวันที่บริบทการเมืองเปลี่ยนไป กระแสของ ‘พรรคก้าวไกล’ ไม่ได้ฟีเวอร์ เฉกเช่น ‘อดีตพรรคอนาคตใหม่’ เมื่อ 4 ปีก่อน

อีกทั้งช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ก็พอจะพิสูจน์ ‘การต่อสู้’ ของพรรคก้าวไกล ว่าสำเร็จถึงขั้นใด ดังนั้นการออกมาของ ‘พรรคก้าวไกล’ ครั้งนี้ จึงหลีกหนีกระแสวิจารณ์ถูกมองไปในเรื่อง ‘การเมือง’ เพื่อ ‘ฟื้นศรัทธา-เรตติ้ง’ กลับมาให้พรรคอีกครั้ง ใน‘ช่วงโค้งสุดท้าย’ ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลหาเสียงเลือกตั้ง

-------------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น