นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เรื่องของตะวันและแบม คือเรื่องของทุกคน การเรียกร้องสิทธิให้ผู้ต้องหา 112 คือการยืนยันสิทธิของคนไทยทุกคน
ผมเฝ้าติดตามข่าวการถอนประกันตัวเองที่ศาลอาญา ต่อด้วยการประท้วงอดอาหารและน้ำของตะวันและแบม ด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ผมเป็นห่วงสุขภาพของทั้งคู่ แต่ก็ตระหนักดีว่านี่คือการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของพวกเขา ที่จะต่อสู้เรียกร้องในสิ่งที่พวกเขาเชื่อ
ข้อเรียกร้องที่ทั้งสองคนใช้ร่างกายและชีวิตเป็นเดิมพัน คือ
1. ต้องมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ศาลต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงออก ต้องเป็นอิสระ ปราศจากอำนาจนำ และผู้บริหารศาลต้องไม่แทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดี
2. ยุติการดำเนินคดีกับประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม และการแสดงออกทางการเมือง
3. พรรคการเมืองทุกๆ พรรคต้องเสนอนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพ และการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยการยกเลิก ม.112 และ ม.116
ผมสนับสนุนข้อเสนอทั้งสามข้อ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่งที่ในประเทศไทย ตะวัน และแบม ต้องใช้ร่างกายของตัวเองเป็นเครื่องมือต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้ได้สิทธิพื้นฐานเหล่านี้
ที่น่าเศร้ายิ่งกว่า คือคนจำนวนมากคิดว่านี่เป็นเรื่องของคนไม่กี่คน เป็นเรื่องของคนที่ “หาเรื่องใส่ตัว” ถ้าอยู่เฉยๆ ก็คงไม่เดือดร้อน ไม่ต้องติดคุกติดตะราง เสียอนาคต
ผมขอยืนยันว่า การเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมที่เป็นอิสระและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนเสมอภาคกัน ไม่ใช่เรื่องของคนไม่กี่คน แต่เป็นเรื่องพื้นฐานที่คนไทยทุกคนต้องได้รับ สิทธิในการประกันตัว และได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครหน้าไหนต้องได้รับ โดยไม่จำเป็นต้องเรียกร้องต่อสู้ เช่นเดียวกับสิทธิในการมีน้ำประปาสะอาดใช้ หรือได้นั่งรถเมล์ที่ปลอดภัยและราคาถูก
วันนี้ ผมขอยืนหยัดเคียงข้างตะวันและแบม นี่ไม่ใช่การยืนหยัดเพื่อตะวันและแบม หรือผู้ต้องหาคดีการเมืองเท่านั้น แต่คือการยืนหยัดเพื่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน
อย่ารอจนกว่าจะถึงวันที่ลูกหลานของเราต้องรณรงค์ประท้วงด้วยชีวิตของพวกเขา จึงค่อยตระหนักว่ากระบวนการยุติธรรมที่เที่ยงธรรม สำคัญต่อเราแค่ไหน
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
20 มกราคม 2566