xs
xsm
sm
md
lg

ถ้าตำรวจแบ่งของกลางให้โทษเบา ทำลายทิ้งไม่ง่ายกว่าหรือ! ผบช.น.ชี้แจงทุกประเด็นคดี "ผับจินหลิง"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online-"บิ๊กจ้าว" ตั้งโต๊ะแถลงคืบหน้าคดีผับจินหลิง ตอบหลายประเด็นที่สังคมสงสัย เผยรอฟังคำตอบวันที่อัยการสั่งฟ้อง สำนวนบกพร่องหรือไม่

วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.แถลงความคืบหน้าและชี้แจงประเด็นต่างๆ ในคดีผับจินหลิง ว่า เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ผบ.ตร.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนของ ตร.ตนได้รับทราบคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่วันที่ 23 พ.ย. วันเดียวกันก่อนรับทราบคำสั่ง ป.ป.ส.มีคำสั่งที่ 7180/23 เรื่องตรวจยึดอาคารจินหลิงและบริเวณโดยรอบ หมายถึงอยู่ในการควบคุมอายัดของ ป.ป.ส.ตนจึงให้ บก.น.6 รายงานผลการปฏิบัติ พร้อมแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนของ บช.น.เพื่อเร่งรัดดำเนินการโดยมีพนังานสอบสวนท้องที่รวมอยู่ด้วย เพราะเกี่ยวข้องกับอำนาจการตรวจค้นตรวจยึดขอหมายศาลฝากขัง โดยวันที่ 22 พ.ย.มีการออกหมายจับตู้ห่าว วันที่ 23 พ.ย.จับกุมตัวตู้ห่าวเลขคดีที่ 824/65 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ตนรับทราบคำสั่ง ขณะที่คดีแรกจับกุมวันที่ 26 ต.ค.เลขคดีที่ 794/65 เป็นคนละคดีกันแต่เชื่องโยงกันหลังจากตรวจสำนวนเสร็จ วันที่ 29 พ.ย.เรียกประชุมและมอบหมายให้ พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น.เป็นผู้รับผิดชอบการสืบสวนยึดอายัดรวมทั้งประสาน ป.ป.ส.

วันที่ 4 ธ.ค.ประชุมสั่งการตรวจสอบสถานที่เพิ่มเติมเพื่อหาพยานหลักฐานเชื่อมโยง และทำรายงานการสืบสวนประกอบ โดยกำชับว่ายังมีพยานหลักฐานตรงไหนตกค้างที่สามารถรวบรวมในสำนวนให้แน่นหนาขึ้นได้บ้าง พ.ต.อ.สราวุธ ประสาน ป.ป.ส.ให้ตรวจยึดรถยนต์หรูที่จอดอยู่อาคารจินหลิง จึงสั่งการ ผบก.น.6 ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และอธิบดีกรมศุลกากร ตรวจสอบรถยนต์ทุกคันเพื่อพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นเจ้าของโดยเฉพาะคันที่ไม่สามารถเปิดได้ จากนั้นออกหมายเรียกไปถึงเจ้าของรถทั้งหมดทำการสอบสวน และตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของจริงหรือไม่ ใครเป็นผู้ขับขี่ ระหว่างนั้น ป.ป.ส.มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา รวมถึงอายัดรถชั่วคราวที่ตรวจยึดในที่เกิดเหตุทั้งหมด เมื่อมีคำสั่งเช่นนั้นต้องรอ ป.ป.ส.อนุญาตให้ตำรวจเข้าไปดำเนินการ หรือ ป.ป.ส.เข้าไปแล้วเรียกตำรวจ จึงเป็นที่มา ป.ป.ส.เข้าไปตรวจสอบวานนี้ (27 ธ.ค.) เชิญผู้ชำนาญเฉพาะทางเปิดรถ ในวันเกิดเหตุ ผบก.น.6 รายงานมาแล้วว่าได้เชิญผู้ชำนาญมาเปิดแต่ไม่สำเร็จ

นอกจากตรวจรถ ป.ป.ส.เข้าไปตรวจสถานที่หาหลักฐานเพิ่มเติมมีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมสำลีพันไม้ ถาดไม้ ไม่มีการจัดเก็บไปตั้งแต่แรกกลับปล่อยทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุนาน 2 เดือน ในวันเกิดเหตุส่วนที่เป็นห้องคาราโอเกะ 12 ห้อง และบริเวณอื่นที่พบยาเสพติด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ร่วมกับตำรวจสืบสวนตรวจสอบพบวัตถุดังกล่าวอยู่ในที่เกิดเหตุซึ่งมีผู้ต้องหาอยู่ด้วย ตำรวจใช้เป็นพยานหลักฐานในการเชื่อมโยงผูกมัดตัวผู้ต้องหา เพราะเป็นวัตถุพยานใกล้ชิดเห็นได้ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ จำนวนที่จัดเก็บไว้แล้วมีปริมาณมากเพียงพอที่จะออกหมายจับในข้อหาต่างๆ เช่น เสพยาเสพติด เพื่อเชื่อมโยงข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในคดี กรณีไม่เข้าไปตรวจค้นอาคารลีลาแนวทางสืบสวนเชื่อว่าเคยเปิดเป็นบ่อนการพนัน ก่อนหน้านี้ไม่พบอุปกรณ์เล่นการพนันมีการซุกซ่อนอย่างดี ในอาคารดังกล่าวมี 18 ห้อง วานนี้ตรวจค้นอย่างละเอียดอีกครั้งพบอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องดียืนยันได้ว่า รายงานการสืบสวนข้อมูลถูกต้องจะนำมาเชื่อมโยง และไปขยายผลต่อเนื่องว่าสามารถพิสูจน์ หรือหาตัวผู้กระทำผิดได้ต่อไปหรือไม่ ย้ำว่าตำรวจมีการดำเนินการทุกอย่างมีกฎหมายมีขั้นตอนทำโดยพลการไม่ได้

ส่วนอาคารวิบวับคาร์วอสมีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมไม่เข้าตรวจค้นตั้งแต่วันแรกนั้น วันที่ 26 ต.ค.เริ่มตรวจค้นอาคารจินหลิง และลีลาช่วงกลางคืนเสร็จสิ้นกลางวัน อาคารวิบวับที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันมีปัญหาเข้าตรวจค้นไม่ได้ จึงขอหมายค้นในวันที่ 1 พ.ย.สาเหตุเว้นระยะเพราะวันที่ 27 ต.ค.นำผู้ต้องหาส่งคัดแยก วันที่ 28 พ.ย.นำผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลฝากขัง วันที่ 29 พ.ย.สอบปากคำผู้ต้องหาบางรายที่ให้การปฏิเสธแล้วส่งฟ้องศาลฝากขัง วันที่ 30 พ.ย.ส่งบัญชีรายชื่อ วันที่ 1 ธ.ค.ศาลอนุญาตให้ตรวจค้นในเวลา 17.00-18.00 น.เนื่องจากได้มีการขอไปแล้วในครั้งแรกตามกรอบเวลาที่เหมาะสม 1 ชั่วโมง เพราะอาคารดังกล่าวไม่มีเจ้าของแสดงตัวพนักงานสอบสวนหาพยานข้างเคียงมารับรอง ประกอบกับประตูทางเข้าล็อกรหัสไว้ต้องเชิญผู้ชำนาญมาปลดล็อก จากการตรวจค้นพบยาเสพติด และอาวุธปืน พฐ.รวบรวมพยานหลักฐานและบันทึกการตรวจค้น กระบวนการทำเอกสารล่วงเลยเวลาเพราะผ่านหลายขั้นตอน คำถามต่อมาตรวจแล้วทำไมในระบบไม่มีตัวเลขคดีเมื่อตำรวจได้ของกลางมาแล้ว ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของก็ไล่ดูพยานหลักฐานที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด พบว่าเป็นผู้ต้องหากลุ่มเดียวกันกับที่อาคารจินหลิงจนกระทั่งสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคล จึงเอาของกลางเข้าไปรวมในสำนวนคดีจินหลิง

"ถ้าพนักงานสอบสวนมีเจตนาจะแบ่งแยกของกลางออกไปให้โทษเบา เขาทำลายทิ้งช่วยผู้ต้องหาไม่ง่ายกว่าหรือ เมื่อเขาเจอเขาเอาไปรวมด้วยซ้ำให้โทษมันหนักกว่า สาเหตุที่สังคมมองว่าคดีเนิ่นนานนั้น ตั้งแต่ 26 ต.ค.คณะพนักงานสอบสวน บก.น.6 ดำเนินการจนมาถึง 15 พ.ย.เพราะ ตร.มีคำสั่งเขาดำเนินการได้แค่นั้น แต่พอช่วงเปลี่ยนผ่านพนักงานสอบสวนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง และมีชื่ออยู่ในความรับผิดชอบยังออกหมายจับต่อ ค้นวันที่ 26 ออกหมายจับตู้ห่าว 22 ภายในระยะเวลาไม่ถึง 30 วัน เขาสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ด้วยพยานหลักฐานที่ทำให้ศาลเห็นว่าเกี่ยวข้อง อย่างนี้เนิ่นนานหรือไม่ ส่วนการตรวจสอบรถเมื่อวานจะเอาผิดผู้ต้องหาได้หรือไม่ พยานหลักฐานไม่ได้มีเฉพาะรถยนต์ คิดว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่มากพอที่จะดำเนินคดีได้ มีมากพอที่จะตั้งข้อกล่าวหา และออกหมายเพิ่มเติมอีก 15 ราย ทั้งในข้อหาบทหนักสุดรวมถึงฟอกเงิน ยืนยันเราเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด พนักงานสืบสวน พนักงานสอบสวนทำงานครบถ้วนทุกขั้นตอน หลักฐานชัดเจน ข้อหาฟอกเงินเมื่อถึงจุดยังไงเราก็ต้องแจ้ง เมื่อเราเห็นแล้วว่ามันชัดเจนเชื่อมโยงกัน คำตอบอยู่ที่วันส่งสำนวนเรารอฟังอัยการในวันสุดท้ายก็จะได้คำตอบว่า สำนวนนี้บกพร่องเสียหายหรือเปล่า อยากให้รอดูวันนั้นมีคำตอบอยู่แล้ว ถ้าเราไม่เร่งร้อนเกินไปจะได้คำตอบที่ตรง และเที่ยง" น.1 กล่าว

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวด้วยว่า มีการพูดถึงว่าคดีผับจินหลิงจะซ้ำรอยกับคดี "หลงจู๊สมชาย" หรือไม่ หลังศาลสั่งยกฟ้องขณะตนเป็น ผบช.ภ.2 คดีเกิดขึ้นที่ภาค 2 จริง ได้มีการโอนสำนวนให้กับ บก.ป.ก่อนที่ตนจะไปรับตำแหน่งตนได้แค่ติดตามข่าวว่าเกิดอะไรขึ้น.


กำลังโหลดความคิดเห็น