6 เดือนหลังปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดมีผลเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2565 ขณะนี้ ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ที่เสนอโดยพรรค ภูมิใจไทยนั้นกลับมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยทำให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. ออกจากวาระประชุมโดยให้มีการทบทวนร่างกฎหมายใหม่อีกครั้ง ทำให้เกิดกระแสความกังวลว่า จะไม่มีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาและกัญชง และอาจเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา
แม้ว่า ข้อกังวลต่างๆ จะยังเป็นข้อถกเถียงตั้งแต่ในระดับสภา ภาคประชาสังคม จนถึงสถาบันครอบครัว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดของไทย นับเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญที่นำไปสู่การศึกษาวิจัย และการพัฒนาองค์ความรู้ในการปลูกที่มีคุณภาพ เพื่อต่อยอดไปสู่กัญชาทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมในอนาคต ในปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนจำนวนไม่น้อยที่พยายามพัฒนาศักยภาพการปลูก การแปรรูป และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ได้อย่างมีคุณภาพ สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ในชุมชนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ วิสาหกิจชุมชนบางแห่งยังได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดยเปิดอบรมให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์และกัญชา กัญชงเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นโอกาสอันสำคัญในการต่อยอดองค์ความรู้ และเสริมสร้างศักยภาพกัญชา กัญชงเชิงพาณิชย์ในอนาคต
วิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centers จ.นนทบุรี เป็นหนึ่งในวิสาหกิจชุมชนที่ได้พยายามขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์และกัญชาเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ โดยมีการจัดอบรมการปลูกกัญชาทางการแพทย์ให้มีคุณภาพแก่ประชาชน และหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สนใจมากกว่า 50 รุ่น นอกจากนี้ ยังต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่การส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ และพัฒนาสินค้าชุมชนใหม่ๆ ออกสู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดผู้เข้าอบรมหลักสูตรบูรณาการศักยภาพนักธุรกิจพืชเศรษฐกิจกัญชาและกัญชง (Cannabis Entrepreneur Program – CEP) เพื่อพัฒนาศักยภาพการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมกัญชา และกัญชงอย่างถูกต้อง และบูรณาการการทำธุรกิจด้านกัญชาและกัญชงอย่างมีประสิทธิภาพ กว่า 30 คน นำโดย คุณชารอน ดัยเดียร เลย์ซั่น ผู้อำนวยการหลักสูตร CEP ได้เข้าศึกษาดูงานการปลูกกัญชา กัญชง โดยรับฟังการบรรยายจากคุณธวัช จรุงพิรวงศ์ ประธานวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centers พร้อมเวิร์คชอปการปลูก การปักชำ และการตัดแต่งกัญชาให้มีคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยว รวมทั้งซักถามประเด็นข้อสงสัยในทุกมิติ
คุณชารอน ดัยเดียร เลย์ซั่น ผู้อำนวยการหลักสูตร CEP กล่าวว่า ธุรกิจกัญชา กัญชง เป็นเทรนด์ต่างประเทศที่มีการใช้กัญชาทางการแพทย์และกัญชงเชิงพาณิชย์มานาน เมื่อมีการปลดล็อกจึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต เพราะรัฐตั้งเป้าให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ทั้งในธุรกิจบริการอาหาร อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอางและสุขภาพ การนำเข้าอบรมหลักสูตร CEP มาศึกษาดูงานในครั้งนี้ นับเป็นการเปิดมุมมองทั้งความรู้ และธุรกิจกัญชา กัญชงของไทย ที่สำคัญยังได้เห็นการพัฒนาบทบาทของวิสาหกิจชุมชนยุคใหม่ที่มีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกัญชากัญชงของไทยไปพร้อมๆ กับผู้ประกอบการในภาคส่วนอื่นๆ
ด้านคุณธวัช จรุงพิรวงศ์ ประธานวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centers กล่าวว่า กัญชา กัญชง เป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่เป็นภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทย และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการดูแลสุขภาพของคนในตั้งแต่อดีต หลังปลดล็อกได้พยายามส่งเสริมการปลูกกัญชากัญชงทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพ และพยายามผลักดันให้เกิดการแปรรูป รวมทั้งการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยใช้ฐานความรู้ภูมิปัญญาจากชุมชนชนและต่อยอดองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่สำคัญ ยังได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ฯ ขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งในด้านการแพทย์ และเป็นฐานสำคัญในการพัฒนาสู่อุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไปในอนาคต