แม่น้องโชคขอโรงเรียนดูภาพวงจรปิดเหตุปืนลั่นในห้องคอมพิวเตอร์ ยันข้องใจช่วงนาทีก่อนเกิดเหตุ คลิปหายไปชั่วโมงครึ่ง ยังไม่เผาศพลูก ยืนกรานขอให้นิติเวชช่วยตรวจสอบ เตรียมยื่นเรื่องกระทรวงยุติธรรม
วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. น.ส.ปวีณา งามสุด (แม่น้องโชค) นางนันท์ภัส ชโยด (ยายเล็ก) และ น.ส.วรรณพร งามสุด (น้าน้องโชค) พร้อมด้วย นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เดินทางไปที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อเข้าขอดูคลิปจากกล้องวงจรปิดจากโรงเรียนตามที่ได้นัดหมายกับผู้การและผู้กำกับ เนื่องจากห้วงเวลาที่หายไป 1 ชั่วโมง 30 นาที เป็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ ซึ่งทางญาติและทนายยังติดใจสงสัย ว่า ห้วงเวลาดังกล่าวหายไปไหน
น.ส.ปวีณา แม่น้องโชค กล่าวว่า ตนยังติดใจเหมือนเดิม เพราะในสิ่งที่คิดมันน่าจะถูกบ้าง ยิ่งเห็นคลิปยิ่งมีข้อสงสัยเยอะเลย พอตนถามเขาก็เลี่ยงตอบ เข้าใจว่า ยังยึดคำให้การผู้ก่อเหตุบ้าง แต่ผลที่ยังไม่ออกมาก็บ่งชี้ได้ชัดเจนที่สุด ตนเลยอยากให้ทางนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาจำลองด้วย ตนตอบได้ไม่เต็มปากว่าพอใจหรือไม่ ก็ให้เขาชี้แจงไป เขามีสิทธิที่จะชี้แจงให้หายข้องใจ เรามีหน้าที่ถาม เขามีหน้าที่ตอบ ตัวครูเองจะอธิบายในส่วนของเด็กมากกว่า ไม่ได้อธิบายละเอียดมาก ตนก็ไม่รู้เพราะบางอย่างในส่วนของเรื่องเด็กมีปปัญหากันมั้ย ครูก็ไม่สามารถบอกได้ทั้งหมด แต่ถามว่าเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมั้ยคงไม่น่าจะใช่ ตอนที่ไปขอขมานัดแต่เช้าแล้วให้รอแล้วมาเย็น หลังจากนั้น ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อมา มีแค่ถามว่าน้องโชคจะเผาวันไหน คอยถามว่าจะเผามั้ย และมีคนแชตมาถามบอกเป็นเพื่อน คือ ขอเลยถ้าใครจะมาป่วน ตนไม่ได้กลัว แต่น้องจะยังไม่เผาจนกว่าจะได้รับความจริง ได้รับความยุติธรรม ตนสบายใจนิดนึงแต่ก็ลูกเราทั้งคน เสียใจอยู่แต่ไม่อยากร้องไห้ อยากหาความจริงให้ลูก ถ้ามัวแต่ร้องไห้ทุกอย่างที่ทำไปอาจจะเสียเปล่า อยากจะฝากถึงโรงเรียนหลายๆ ที่ ช่วงเด็กมีช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คิดยังไง ห้าวไม่ห้าว กร่างไม่กร่าง แต่เราดูนิดนึงว่าพฤติกรรมเป็นยังไง เพราะครูอยู่ใกล้ชิดที่สุด อยากให้ตรวจเข้มดีกว่ามาสูญเสียไปเคสนึงแล้วก็เงียบไป จนมาเคสของลูกตน ต้องสูญเสียเท่าไหร่ถึงพอใจ พอกระทำมาก็อ้างเป็นเยาวชน วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดมาดูกล้องวงจรปิดหน้าโรงเรียน และในโรงเรียน
ทนายโป้ง กล่าวว่า พรุ่งนี้เราจะไปกระทรวงยุติธรรม ไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม อาจจะผ่านทางท่านเลขาฯ เดี๋ยวจะนัดหมายอีกที เมื่อคราวที่แล้ว เราขอดูคลิปแต่เช้า จนหลังเกิดเหตุจนเขาให้เพื่อนเอาไปทิ้งน้ำ วันนี้เรากลับมาพบว่าคลิปมันมีเวลาหายไป 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งคลิปไม่น่าหาย เป็นช่วงก่อนเข้าเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งสิ่งที่ตำรวจมาให้ดูวันนี้เหมือนให้มาดูหนังที่สร้าง คลิปยาวแต่ตัดต่อมา แต่คิดว่าคงไม่ได้เจตนาจะทำให้คลิปหายไปบางช่วง แต่คราวหน้าทางผู้กำกับบอกจะรวบรวมมาให้ครบถ้วน สิ่งที่ผิดปกติ คือ เด็กที่ก่อเหตุตอนพักกลางวันใส่เสื้อกันหนาว พอเข้ามาเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ถอดเสื้อกันหนาวเดินขึ้นมากับมือถืออะไรอยู่ แล้วเดินเข้าไปในห้องช่วงแค่ 6 วินาที ก็มีเสียงปืนลั่น วิ่งออกมาแล้วเข้าไป ก่อนจะเข้าไปในห้องก็ดูมีพิรุธ แต่ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุคลิปหายไปไหน ฝากย้ำอีกทีถึงผู้อำนวยการโรงเรียน ควรให้คลิปมาให้หมด ใครที่ตัดคลิปให้คลิปมาไม่ครบ แต่ก็ดีที่วันนี้ให้ความร่วมมืออย่างดี
จุดสำคัญอยู่ที่ชั่วโมงนั้น ตอนพักเที่ยงน้องโชคเองทำท่าหยอกล้อกับคู่กรณี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คิดว่าเป็นการหยอกล้อกัน แต่คู่กรณีลักษณะการเดินเข้าไปในห้อง มีการถือบางอย่างคงเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากปืน ส่วนการลั่นไกปืนต้องไปดูอีกที รอคลิปที่หายไป 1 ชั่วโมงครึ่ง จะไขปริศนาทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้ตนชี้ให้ตำรวจเห็นว่า น้องที่ก่อเหตุเดินเข้าไปในห้อง มันไม่น่าเกิดจากการปืนลั่น ลักษณะกระสุนเหมือนการเหนี่ยวไกมั้ย เขม่าดินปืนพบในเสื้อกันหนาวมั้ย มันเป็นตัวชี้ชัดเลย อยู่ที่พิสูจน์หลักฐานและคุณหมอที่มาชันสูตรพลิกศพแรกๆ เลย แต่เนื่องจากวัตถุพยานมีการเคลื่อนย้าย หลักฐานอาจจะไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่นิติเวชคงมีข้อมูลอยู่ รอยตรงหางตาน่าจะมีรอยเขม่า คุณครูคงอยู่ในสภาวะเสียใจกับเหตุการณ์เลยตอบคำถามตนไม่ได้ ตนถามว่า เห็นน้องโชคนั่งตรงไหน ผู้ก่อเหตุใส่เสื้อกันหนาวเข้ามามั้ย ซึ่งตอบตนได้ไม่ครบถ้วน อยากให้เอาความจริงมาพูด เมื่อสมมติฐานมันถูกเปลี่ยน ต้องรอ 3 ฝ่ายคือพิสูจน์หลักฐาน นิติเวช และหมอที่ชันสูตรพลิกศพ เพื่อมาประกอบกับชั่วโมงในคลิปที่หายไป จะเป็นคำตอบที่ชัดเจน ทันทีที่เจอตนจะเข้ามาดู ถามคุณแม่แล้วต้องการให้มีหน่วยงานเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วยในคดีนี้ ทำแผนที่เกิดเหตุ จำลองเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ วิถีกระสุนไปยังไง หมอนิติเวชจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะมาช่วยไขคำตอบ ใครกันแน่ที่จะพิสูจน์ได้ดีสุด
พ.ต.อ.ถาวร อดุลย์วิทย์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า วันนี้ได้นัดญาติของผู้เสียชีวิตและทนายมาพูดคุย ซึ่งทางตำรวจทำงานเต็มที่ตรวจพยานหลักฐานเพียงแต่การติดต่อสื่อสารกับทางตำรวจอาจจะคลาดเคลื่อน ทางญาติมีสิทธิสงสัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ได้คุยกันแล้วทำความเข้าใจกัน รอหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์ที่ส่งมาวิเคราะห์ได้ ส่วน 1 ชั่วโมงครึ่งที่หายไปไม่ได้ตกหล่นเก็บมาแล้ว ทางผู้เสียหายสงสัยว่าหายไปไหน แต่ทางผู้กำกับมองว่า เอาที่สำคัญมาดูเดี๋ยวทางตนจะไปเก็บมาให้ ส่วนครอบครัวที่ติดใจเรื่องเขม่าดินปืน ทางนิติวิทยาศาสตร์และทางพิสูจน์หลักฐานนนทบุรี ไม่มีการตรวจครบทุกประเด็น ทางผู้กำกับเป็นคนประสานงานเอง ตอนนี้คงต้องรอพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และหลักฐานเพิ่มเติม พยายามให้ความจริงปรากฏ เรื่องที่แม่หรือท่านทนายสงสัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำให้ทุกประเด็น อาจจะต้องสอบพยานแวดล้อมอีกสักหน่อย คดีนี้ไม่กดดันอาจจะเป็นการสื่อสารกันน้อย ระหว่างตำรวจกับทางญาติ