ตำรวจสอบเด็กนักเรียนทำปืนลั่นใส่เพื่อนเสียชีวิต เตรียมตั้งข้อหาเพื่อนรุ่นพี่ที่ช่วยเหลือรวม 6 คน ด้านผู้การฯ นนท์ยันสาเหตุไม่ใช่ฆาตกรรม แต่เป็นอุบัติเหตุปืนลั่น พบรูกระสุนที่เสื้อกันหนาวใช้ห่อปืนมา
วันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ห้องสืบสวน สภ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ นายต้า (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ที่นำอาวุธปืนปากกา หรือปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 มาที่โรงเรียนก่อนเกิดเหตุอาวุธปืนลั่นใส่น้องโชค อายุ 15 ปี เพื่อนนักเรียนห้องเดียวกันจนเสียชีวิต พร้อมกับเพื่อนและรุ่นพี่ที่อยู่ในเหตุการณ์และมีส่วนช่วยเหลือนำอาวุธปืนไปทิ้งรวมทั้งหมด 6 คน นานหลายชั่วโมง
โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพื้นที่การศึกษานนทบุรี 2 (สพฐ.2) เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกแต่เพียงว่ามาหาข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปหามาตรการป้องกันเหตุก่อนเดินทางกลับ
ด้าน พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เดินทางมาที่ สภ.บางบัวทอง พร้อมเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีประชุมที่ห้องประชุมชั้น 2 ใช้เวลาประชุมนานเกือบ 1 ชม.โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในห้อง ก่อนจะลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 15 ก.ย. 2565 เวลาประมาท 13.30 น. ในห้องคอมพิวเตอร์ โรงเรียนวัดลาดปลาดุก จากการสอบปากคำเด็กนักเรียนที่นำปืนมา และเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงรุ่นพี่ที่มานำอาวุธปืนไปทิ้งในคลอง ทราบว่า ก่อนที่ปืนจะลั่น น้องนักเรียนที่พกปืนได้นำปืนแอบพันใส่เสื้อกันหนาวไว้เข้ามาในห้องเรียน แต่จังหวะที่กำลังลุกขึ้นยืนอยู่ และกำลังจะคลี่เสื้อกันหนาวออกมาใส่ ปืนได้ลั่น กระสุนเข้าไปที่หน้าของน้องนักเรียนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพ์จนเสียชีวิต ซึ่งในที่เกิดเหตุ มีเพื่อนอยู่ด้วยกัน 4 คน หลังเกิดเหตุน้องนักเรียนที่พกปืน ก็พยายามจะเข้าไปช่วยเพื่อน แต่ด้วยความชุลมุน ครูเลยให้นักเรียนออกจากห้องไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ จากนั้นน้องนักเรียนที่ก่อเหตุจึงได้โทร.ไปหารุ่นพี่ ให้เข้ามาที่โรงเรียน เพื่อช่วยนำปืนไปทิ้งในคลองให้
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนทั้งสองคน ไม่ได้มีปัญหาทะเลาะกัน แต่เป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมาก ไม่ได้เป็นตามข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้ว่าทั้ง 2 คน ไม่ถูกกันหรือทะเลาะกันแต่อย่างใด แต่ที่น้องนักเรียนที่พกปืนมาทำไมต้องพกปืนมาโรงเรียน เพราะต้องการนำไปขู่คู่อริในโรงเรียนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยนำปืนเข้ามาโรงเรียนแล้วหลายครั้ง ส่วนปืนดังกล่าวก็เป็นของเพื่อนรุ่นพี่ ที่มีความรู้ทางช่างทำปืนไทยประดิษฐ์ .38 ขึ้นมาเอง
เบื้องต้นตอนนี้เราควบคุมตัว รุ่นพี่ทั้ง 5 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไว้แล้ว โดยรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของปืน ได้แจ้งข้อหากล่าวหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และรุ่นพี่ที่เอาปืนไปทิ้งในคลอง แจ้งข้อหากล่าวหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะ ส่วนรุ่นพี่ที่เหลืออีก 4 คน แจ้งข้อกล่าวหา ช่วยกันทำลายหลักฐาน
ส่วนน้องนักเรียนที่ทำปืนลั่น แจ้งข้อกล่าวหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้วช่วงบ่ายจะนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดนนทบุรี ต่อไป
ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมครูให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า คีย์บอร์ดระเบิดในตอนแรกนั้น ก็ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะเท่าที่ให้การก็เป็นไปได้ว่าพอปืนลั่น เด็กที่อยู่ในห้องบอกว่าคีย์บอร์ดระเบิด ทำให้คุณครูเข้าใจไปแบบนั้น จึงได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างนั้น
สำหรับวิถีกระสุน พบว่า กระสุนเข้าจากทางด้านหลังศีรษะทะลุออกมาที่เบ้าตาน้องที่เสียชีวิต แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบโดยละเอียด แต่เบื้องต้นพบว่าเสื้อกันหนาวของน้องนักเรียนที่พกปืนมามีร่องรอยรูกระสุนปืนทะลุออกมาจริง สำหรับในส่วนของคีย์บอร์ดที่แตกหรือพัง ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าได้รับความเสียหายจากอะไรต่อไป