MGR Online - ปอศ.บุกค้น 5 จังหวัด ทลายเครือข่ายแก๊งเงินกู้ธุรกิจเอสเอ็มอี ดอกเบี้ยโหด รวบผู้ต้องหา 29 ราย พบเงินหมุนเวียนกว่า 454 ล้านบาท
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. ร่วมแถลงผลจับกุมเครือข่ายเงินกู้นอกระบบออนไลน์ “moneyday credit” พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 450 ล้านบาท โดยจับกุมผู้ต้องหา 29 ราย โดย 8 ราย มีหมายจับประกอบด้วย นายอนิวัฒน์ บัวใหญ่ อายุ 26 ปี, นายอลงกรณ์ แสงสุธา อายุ 26 ปี, นายธนพล ศรีภา อายุ 19 ปี, นายนัฐวุฐ ภูมี อายุ 24 ปี, นายพงศกร จุณศรี อายุ 26 ปี, นายจิรพันธ์ พงษ์สุกรี อายุ 26 ปี, นายอดิเทพ ลันละนา อายุ 31 ปี และ นายสมโชค อาจหาญ อายุ 25 ปี ตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1133-1140/2565 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 65 ข้อหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียก ดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” พร้อมของกลาง มือถือ 54 เครื่อง, โน้ตบุ๊ก 25 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง, แท็บเล็ต 4 เครื่อง และซิมโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก รวมจำนวนของกลางกว่า 300 รายการ
พ.ต.อ.ภาดล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยหลายรายเข้าแจ้งความว่า หลังจากกู้ยืมเงินจากเว็บไซต์ “moneydaycredit.com” คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1.5 ต่อวัน หรือร้อยละ 45 ต่อเดือน ร้อยละ 547.5 ต่อปี จึงไม่มีเงินชำระหนี้ ทางเว็บไซต์จึงได้ส่งกลุ่มชายฉกรรจ์มาข่มขู่ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีการชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกู้เงิน โดยเน้นเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ถูกกฎหมายได้ โดยขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตน หรือใช้คนค้ำประกัน ส่วนกรณีที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ทางเจ้าของเงินกู้จะไปสำรวจกิจการเพื่อประกอบการพิจารณา เมื่ออนุมัติสินเชื่อแล้ว ทางเว็บไซต์จะโอนเงินไปให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งไปยังบัญชีธนาคารของลูกหนี้ โดยจะหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรกไว้ก่อน หากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ ก็จะใช้วิธีการข่มขู่เพื่อให้ชำระหนี้ นอกจากนี้ ยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนถึง 450 ล้านบาท
พ.ต.อ.ภาดล กล่าวต่อว่า เครือข่ายดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการคิดดอกเบี้ยที่ผิดกฎหมาย ประกอบกับเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยคาดว่า มีผู้เสียหายหลายร้อยราย อีกทั้งบางรายมีความเครียดถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนหาเบาะแสจนกระทั่งสามารถนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพัก และ สำนักงานของเครือข่ายดังกล่าว ในพื้นที่ จ.จันทบุรี, ปทุมธานี, ขอนแก่น, นครราชสีมา และ กรุงเทพฯ รวม 5 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 8 ราย และยังสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้อีก 21 ราย ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น, นครราชสีมา, กรุงเทพฯ และ ปทุมธานี รวมเป็น 29 ราย เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีและดำเนินการขอปิดเว็บไซต์ดังกล่าว รวมถึงขยายผลถึงนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป