อุดรธานี-แก๊งเงินกู้ถูกตำรวจสันติบาลอุดรฯรีดเงิน 5 แสนแลกไม่ดำเนินคดีเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน
สภ.เมืองอุดรธานี เผยตอนแรกเรียกสูงตั้ง 1 ล้านบาทแต่มีให้ไม่พอ ซ้ำภายหลังรับเงินแล้วยังถูกตลบหลังทำบันทึกการจับกุมอีก ด้านต้นสังกัดสั่งย้ายแล้ว 7 นายที่สุมหัวเรียกเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 มิ.ย.) นายเป๋า (นามสมมุติ)อายุ 27 ปี ชาว ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร และนายเกมส์ นามสมมุติ อายุ 28 ปี ขาว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี หลังได้แจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่หน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดอุดรธานี ทั้งหมด 7-8 นาย เรียกรับเงินจากพวกตนไป จำนวน 5 แสนบาท เพื่อแลกกับไม่ดำเนินคดีฐานความผิด “ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
โดยครั้งแรกตำรวจสันติบาลฯได้เรียกรับเงิน จำนวน 1,000,000 บาท แต่แม้จะลดเงินลงเหลือ 500,000 บาทพวกตนไม่มีเงินพอ ตำรวจชุดจับกุม จึงขอควบคุมตัวกลุ่มเงินกู้ 2 คน ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้สืบเนื่องจากช่วงเช้าวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจหน่วยสันติบาล จ.อุดรธานี นำหมายค้นเข้าค้นบ้านเช่าแห่งหนึ่งใน ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี และควบคุมตัวกลุ่มผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ จำนวน 8 คน พร้อมหลักฐานสัญญาการกู้ยืม นามบัตร และบัญชีลูกค้าจำนวนหนึ่ง มาสอบสวนจับกุมดำเนินคดีที่หน่วยตำรวจสันติบาล จ.อุดรธานี ตั้งอยู่ด้านหลัง สภ.เมืองอุดรธานี แต่ขณะสอบปากคำ ตำรวจชุดจับกุมได้ยื่นข้อเสนอให้กลุ่มเงินกู้นอกระบบให้นำเงินมา 1 ล้านบาท เพื่อแรกกับการไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี
แต่ผู้ต้องหาไม่มีเงินมากพอและหามาให้ได้เพียง 5 แสนบาทเท่านั้น โดยขับรถกระบะไปกับตำรวจสันติบาล 2 นาย เพื่อตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม โดยเงินที่กดออกมาเหล่านี้ได้โทรศัพท์หยิบยืมจากญาติพี่น้องโอนเข้าบัญชีธนาคารให้
นายเป๋าและนายเกมส์เล่าต่อว่า แต่เมื่อตำรวจสันติบาลฯได้เงินจากพวกตนไปจนครบ 5 แสนบาทแล้ว กลับขอทำบันทึกการจับกุมตัวเพื่อนของพวกตนจำนวน 2 คน ดำเนินคดีตามกฎหมาย และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดี ส่วนตนทั้ง 2 คน รวมทั้งพวกอีก 4 คน ถูกปล่อยตัวโดยไม่ดำเนินคดีแต่อย่างใด
ต่อมาพวกตนจึงตัดสินใจแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อตำรวจสันติบาล จ.อุดรธานี ที่ร่วมกันรีดไถเงินพวกตนทั้งหมด ให้ถึงที่สุด และได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา
นายเป๋า เล่าว่า เมื่อวานนี้ช่วงเช้าตนกับเพื่อนอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ กำลังนั่งเล่นอยู่ในบริเวณบ้านเช่า ต.นาดี อ.เมืองอุดรธานี รวม 8 คน ขณะตนออกมาหน้าบ้านกำลังสตาร์ทเครื่องรถจักรยานยนต์อยู่นั้น ได้มีชายสวมเสื้อกั๊กคล้ายตำรวจ แขวนป้ายบัตรที่คอ ระบุเป็นตำรวจสันติบาล จำนวน 7-8 คน พร้อมหมายค้นออกมาแสดง ก่อนที่จะเข้าไปทำการตรวจค้นภายในบ้าน แล้วตรวจยึดนามบัตร พร้อมกับบัญชีลูกค้า และให้นายเกมส์ เพื่อนของตนโอนเงินผ่านมือถือระบบแบงก์กิ้งให้หนึ่งในตำรวจที่เข้ามาค้นบ้านไปจำนวน 25,000 บาท หลังจากนั้นได้นำตัวพวกตนทั้งหมดมาที่หน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดอุดรธานี เพื่อทำการสอบปากคำดำเนินคดีกับพวกตนทั้งหมด
จากนั้นตำรวจนายหนึ่งไม่ทราบว่ายศอะไร ได้เสนอขอเงิน 1,000,000 บาทกับพวกตน เพื่อแลกกับไม่ถูกดำเนินคดี แล้วตนก็ติดต่อขอหยับยืมเงินคนครอบครัว และญาติ เพื่อโอนเงินเข้ามาบัญชีของตน จากนั้นตำรวจ 2 นาย ก็พาตนกับนายเกมส์ ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มด้านหลังโรงพัก จำนวน1.5 แสนบาท และพาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าห้างแห่งหนึ่งบนถนนเลี่ยงเมือง อุดร-หนองบัวลำภู จำนวน 3.3 แสนบาท แล้วพาพวกตนทั้ง2 คน กลับมาที่หน่วยสันติบาล จ.อุดรธานี
แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม อ้างว่า เจ้านายให้จับดำเนินคดี 2 คน จึงได้มีการต่อรองขอให้ตำรวจจับเพียง 1 คน แต่ตำรวจไม่ยอม ก่อนนำตัวเพื่อน 2 คนของพวกตนดำเนินคดี พร้อมกับส่งเงินของกลางเพียง 5,000 บาท ให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนเงินที่เหลือ 5 แสนบาท คาดว่าตำรวจชุดจับกุมยึดเก็บเอาไว้
ที่มาแจ้งความเพราะพวกตนก็อยากได้เงินจำนวน 5 แสนบาทคืน ถือว่าเป็นเงินจำนวนมาก ที่ผ่านมายอมรับว่าเคยถูกตำรวจจับดำเนินคดีฐานความผิดปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย แต่เป็นครั้งแรกที่โดนแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะได้เงินคืนมาทั้งหมด ส่วนเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้พวกตนก็คงเลิกอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบอย่างแน่นอน เพราะหากทำต่อไปเหมือนเราหาเงินให้กับคนอื่น ซึ่งไม่มีความเป็นธรรมกับพวกตนเลย และมาปล่อยเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ จ.อุดรธานี ได้เพียง 2 เดือนเศษ ก็มาถูกตำรวจสันติบาลจับรีดเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลของแหล่งข่าวระดับสูงและเชื่อถือได้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในพื้นที่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหา เป็นหน่วยตำรวจสันติบาล จ.อุดรธานี มีทั้งหมด 7 นาย เป็นชั้นสัญญาบัตรระดับรองสารวัตร (ร.ต.อ.) จำนวน 1 นาย ชั้นประทวนอีก 6 นาย ขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูง ตร.ภ.4 ได้สั่งกำชับให้ดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และหากมีข้อมูลหลักฐานที่ตำรวจชุดจับกุมกระทำความผิดจริง จะต้องถูกลงโทษทางวินัยและทางอาญาฯด้วย
ล่าสุดได้มีคำสั่งจากกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 โดย พล.ต.ต.อุดร วงษ์ชื่น ผบก.ส.1 มีคำสั่งให้ 1.ร.ต.อ.ชูสกุล วงศ์วรรณา รอง สว.กก.2 บก.ส.1 2.จ.ส.ต.พงษ์เพชร พลตื้อ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ส.1 3. ส.ต.อ.ธนาดล ดาทอง ผบ.หมู่ กก.2 บก.ส.1 4.ส.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ไชยสีหา ผบ.หมู่ กก.2 บก.ส.1 5.ส.ต.อ.วัชรพงษ์ สุวรรณศรี ผบ.หมู่ กก.2 บก.ส.1 6. ส.ต.อ.เฉลิมราช พิมพ์แก้ว ผบ.หมู่ กก.2 บก.ส.1 และ 7. ส.ต.อ.เกษม สายมณี ผบ.หมู่ กก.2 บก.ส.1 ไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บก.ส.1 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารราชการของ บก.ส.1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ
