พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) แถลงผลการนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 8 ราย
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 มีผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ได้เดินทางเข้าแจ้งความกรณีที่ได้ทำการกู้ยืมเงินจากเว็บไซต์นึง และชำระค่าดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด
จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้เปิดเว็บไซต์เพื่อชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกู้เงิน โดยเน้นเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ถูกกฎหมายได้ โดยขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อของเว็บไซต์ดังกล่าวไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตน และไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน ในกรณีที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ กลุ่มคนร้ายจะไปสำรวจกิจการเพื่อประกอบการพิจารณา เมื่ออนุมัติสินเชื่อแล้วกลุ่มคนร้ายจะโอนเงินไปให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งไปยังบัญชีธนาคารของลูกหนี้ โดยกลุ่มคนร้ายจะหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรกไว้ก่อน หากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ ก็จะใช้วิธีการข่มขู่เพื่อให้ชำระหนี้
เครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก ผู้กู้จะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อวัน หรือร้อยละ 45 ต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 547.5 ต่อปี ถือเป็นการคิดดอกเบี้ยที่ผิดกฎหมายเอารัดเอาเปรียบ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกับกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพัก และสำนักงานของกลุ่มคนร้ายซึ่งอยู่ในพื้นที่รวม 5 จังหวัด ได้แก่ จ.จันทบุรี จ.ปทุมธานี จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา และ กรุงเทพมหานคร จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายได้ 8 ราย
นอกจากนี้ ยังได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยที่น่าเชื่อว่าได้ร่วมกระทำความผิดมาทำการซักถามปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ร่วมขบวนการได้อีก จำนวน 21 ราย รวมผู้ต้องหา 29 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป