xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” ตามคืนหาดเลพัง-ลายัน จ.ภูเก็ต 178 ไร่ เพื่อสาธารณประโยชน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ ลุยสอบคดีบุกรุกพื้นที่ชายหาดเลพัง-ลายัน จ.ภูเก็ต 178 ไร่ เตรียมเอาผิดผู้เกี่ยวข้องครอบครองที่ดินรัฐ ทวงคืนเป็นที่สาธารณะใช้ร่วมกัน

สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำการสอบสวนคดีพิเศษที่ 4/2560 กรณี มีการบุกรุกหาดเลพัง-ลายัน จำนวน 178 ไร่ ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และได้ส่งสำนวนให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนกลับคืนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด โดยกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 23/2562 ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ

ต่อมา ระหว่างการดำเนินการนั้น ได้มีผู้ร้องให้ที่ดินบริเวณดังกล่าวที่อยู่ในความดูแลของจังหวัดภูเก็ต และ อบต.เชิงทะเล ให้ตกเป็นที่ดินของรัฐ โดยให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่พิพาทดังกล่าว และให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาท ทางด้านเจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการให้ตามคำพิพากษาฎีกาและ อบต.เชิงทะเล ร้องให้บังคับคดีทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากพื้นที่พิพาทดังกล่าว แต่มีผู้บุกรุกบางรายยังไม่ปฏิบัติและบางรายแจ้งมีเหตุขัดข้องในการดำเนินการรื้อถอนและไม่ดำเนินการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล ทำให้เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่สามารถดำเนินการตามคำพิพากษาได้ครบถ้วน ประกอบกับการรื้อถอนต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการ

ล่าสุด วันนี้ (28 เม.ย.) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน, นายศุภชัย คำคุ้ม ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ 8 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะ ได้เดินทางเพื่อประชุมหารือกับ นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอถลาง, พ.ต.อ.จุมพล ธนานุรักษ์ ผกก.สภ.เชิงทะเล, นายมาโนช พันธุ์ฉลาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล และ นายปวีณ กุมาร บังคับคดีจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าและรับฟังข้อเท็จจริง โดยหารือในการแก้ไขปัญหา ซึ่งได้ลงพื้นที่ที่ดินพิพาทเพื่อติดตามความคืบหน้าในการบังคับใช้กฎหมายต่อไป

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ประชุมหารือ กับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล บังคับคดีจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ผู้กำกับ สภ.เชิงทะเล และนายอำเภอถลาง เพื่อรับฟังปัญหาที่ยังไม่สามารถดำเนินการให้ที่ดิน 178 ไร่ เป็นที่ดินของรัฐได้เต็มรูปแบบ โดยทราบว่า ทางจังหวัดภูเก็ตและองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล มีความติดขัดในการดำเนินการ จึงมีความประสงค์ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ามาร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดยเบื้องต้นกรณีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน รวมทั้งศาลอาญาทุจริตฯ ได้ไต่สวนและมีคำพิพากษาไว้โดยละเอียด สรุปได้ว่าโฉนดที่ดินไม่ได้มีการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินก่อน พ.ศ. 2497 และไม่ตรงกับตำแหน่งที่ดินตามแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง

ต่อมาได้เข้าพบพนักงานสอบสวน จึงได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาในข้อหา ยึดถือ ครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และยึดถือ ครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครอง และโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งที่ดินบริเวณหาดเลพัง-หาดลายัน ติดทะเล ประเมินราคาที่ดินไร่ละ 250 ล้าน มีมูลค่าความเสียหายรวมทั้งหมดถึง 44,500 ล้านบาท

กรณีดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการเปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีท่าน พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนฯ สำหรับในส่วนที่ดินชายหาดเลพัง ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ที่ดินพิพาทริมหาดเลพัง-ลายัน หมู่ที่ 4 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 178 ไร่ ซึ่งครอบครองโดยเอกชน 6 ราย (เอกชนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐเป็นจำเลย) เป็นที่สาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ต่อจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษจะบูรณาการการทำงานร่วมกันในระดับจังหวัด และจัดตั้งเป็นคณะทำงาน เพื่อแก้ไขการบังคับคดีในกรณีดังกล่าวต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น