รอง ผบช.น.ติดตามดูสำนวนคดีนายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ลวนลามข่มขืนเหยื่อสาวหลายสิบราย เผย เตรียมออกหมายจับเพิ่มสัปดาห์หน้า-แจ้งความ เอาผิด“ลูกนัท” 2 ข้อหาปมด่าทอ ผกก.สน.ลุมพินี
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. เข้าติดตามดูสำนวนคดีที่มีหญิงผู้เสียหายหลายสิบราย เข้าแจ้งความเอาผิด นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหากระทำอนาจารฯ และข่มขืนกระทำชำเรา โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
จากนั้น พล.ต.ต.ไตรรงค์ ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายในคดีทั้งหมด 15 ราย แบ่งเป็นคดีข่มขืน 3 ราย อนาจาร 7 ราย ข่มขืนและอนาจาร 1 ราย อนาจารและพรากผู้เยาว์ 1 ราย ขาดอายุความ 1 ราย คดีต่างประเทศ 1 ราย และกำลังพิจารณาว่าคดีขาดอายุความหรือไม่ 1 ราย ซึ่งคดีที่ สน.ลุมพินี รับผิดชอบ มี 9 ราย โดยมีคดีของผู้เสียหายที่มีคลิปเสียงการสนทนากับผู้ต้องหา ซึ่งตอนแรกผู้เสียหายประสงค์ให้การเป็นพยานเท่านั้น เพราะได้รับการชดใช้มาส่วนหนึ่งแล้ว แต่ตำรวจพิจารณาแล้วเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ จึงกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อรับเป็นคดี
ส่วนกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม อ้างว่า มีนายตำรวจยศพลตรี เข้ามาแทรกแซงคดีนั้น รอง ผบช.น.กล่าวว่า วานนี้ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี ได้คุยกับมารดาผู้เสียหายในคดีแรก ยังยืนยันที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งตำรวจนายนี้เป็นข้าราชการบำนาญเกษียญราชการ ที่ฝ่ายผู้เสียหายมีความเคารพนับถือและรู้จักมานาน จึงได้สอบถามเรื่องข้อกฎหมาย แต่ยืนยันว่า อดีตตำรวจนายนี้ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับคดี หรือแม้แต่ติดต่อพนักงานสอบสวนเข้ามา โดยฝ่ายผู้เสียหายยังคงเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ยังไม่มากลับคำให้การ หรือถอนการแจ้งความ เพียงแต่ต้องการความเป็นส่วนตัว เชื่อว่า ทนายตั้มอาจเข้าใจผิด
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ยืนยันว่า นับตั้งแต่รับคดีวันแรก ก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือกดดันการทำงานของตำรวจ ซึ่ง ผบ.ตร.กำชับให้ทำงานด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม รวดเร็วและรอบคอบ โดยคดีแรกที่รับไว้ จะปิดสำนวนได้ในเวลาไม่นาน เพียงแต่รอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และการพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา โดยในสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้าในการขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของ บก.น.5 พิจารณาให้ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี แจ้งความดำเนินคดีกับ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ลูกนัท นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายและโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก รวม 2 ข้อหา คือ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติและหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยเตรียมออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกลาวหาเร็วๆ นี้ ส่วนการที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ไฮโซนัทและภรรยา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายถูกนายปริญญ์ ข่มขืนอนาจาร ขึ้นไปชี้จุดที่คอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทนั้น มองว่า จะเป็นผลดีต่อตัวผู้เสียหายเอง