อัยการ-กระทรวงยุติธรรม-มหาดไทย-สาธารณสุข-สมาคมแพทย์นิติเวชฯ 5 หน่วยงาน ร่วมมือกันอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา มุ่งเน้นการสืบสวนค้นหาความจริง
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ห้องประชุม 120 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด เป็นประธานความร่วมมือเพื่อการอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา ระหว่าง สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย
โดยมี นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์. รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลง
นายสิงห์ชัย กล่าวว่า เพื่อประสานความร่วมมือในการทำงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรภาคประชาสังคม โดยทุกภาคส่วนมีบทบาทเชิงรุกร่วมกันในทุกขั้นตอนของการค้นหาความจริง การสืบสวนสอบสวน ต้องใช้ประโยชน์จากนิติวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง และบูรณาการทรัพยากรและการดำเนินงาน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินงานอย่างสอดประสานในทิศทางเดียวกันเพื่อให้การพัฒนา กระบวนการยุติธรรมด้านการอำนวยความยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ของประชาชนและสังคมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และเสมอภาคตามกรอบในการพัฒนาประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นให้สังคมมีความสงบสุข ยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อให้ ประชาชนมีความเสมอภาค เท่าเทียม ปลอดภัยในทุกระดับ
การดำเนินงานของสำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย แต่ละหน่วยงานต่างมีหน้าที่และความรับผิดชอบแตกต่างกัน โดยมีบทบาทและพันธกิจสำคัญในการ ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมสังคมให้มีความเท่าเทียมกัน เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายในการรักษาความสงบ เรียบร้อยของสังคมดำเนินไปด้วยความตรงไปตรงมา และประชาชนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมที่มี ประสิทธิภาพ การประสานความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการค้นหาความจริงในคดีอาญา จึงเป็นหัวใจสำคัญในการอำนวยความยุติธรรมโดยเฉพาะการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ ครบถ้วน เพื่อใช้ในการพิสูจน์ความจริง ส่งผลให้การบริหารจัดการระบบงานยุติธรรมของแต่ละหน่วยงานและ การอำนวยความยุติธรรมทางอาญาของประเทศดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สร้างความเป็นธรรมในสังคม และประชาชนได้รับความยุติธรรมอย่างเสมอภาคภายใต้กฎหมาย เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม บรรลุผลสัมฤทธิ์ ตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน
ดังนั้น เพื่อเป็นการประสานความร่วมมือภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานและเพื่อให้การค้นหาความจริงในคดีอาญา การอำนวยความยุติธรรมทางอาญามีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
หน่วยงานทั้ง 5 ฝ่าย จึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ขึ้น เพื่อใช้เป็นกรอบในการปฏิบัติงานร่วมกัน
เพื่อบูรณาการและประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการ เชื่อมโยงระบบรับส่งข้อมูลและติดตามผล เพื่อให้เกิดการประสานงานและการบริหารจัดการข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อสนับสนุนพันธกิจ ยกระดับการบริหารจัดการ และการอำนวยความยุติธรรม ในคดีอาญาของประเทศไทยให้มีความรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม และเสมอภาค
เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของแต่ละหน่วยงานด้านการศึกษา การวิจัย และการฝึกอบรม
เพื่อให้การรวบรวมพยานหลักฐานและการสืบสวนสอบสวนค้นหาความจริงในคดีอาญา เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีความครบถ้วนสมบูรณ์ ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม
เพื่อพัฒนาระบบงานยุติธรรม การอำนวยความยุติธรรม และคุ้มครองสิทธิประชาชน ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรม
เพื่อส่งเสริมการสร้างกลไก การมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาคีเครือข่าย และพัฒนา ระบบปฏิบัติการแจ้งเหตุอาชญากรรมผ่านระบบ Mobile Application เพื่อการเฝ้าระวังเหตุ
ด้านแนวทางการดำเนินงาน ภารกิจร่วมกันของหน่วยงานทั้ง 5 ฝ่าย เบื้องต้น จะร่วมกันส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานในการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรม คู่มือความรู้ และแนวทางปฏิบัติด้านนิติวิทยาศาสตร์ นิติเวช สืบสวนสอบสวน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่บุคลากรในแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ ภาคีเครือข่าย รวมถึงหน่วยปฏิบัติการกู้ชีพและกู้ภัย ร่วมกันสนับสนุนวิทยากรในการจัดประชุม สัมมนา และสนับสนุนให้บุคลากร เข้ารับการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน ร่วมกันสนับสนุนและจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา ประจำจังหวัด โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่เป็นกรรมการ เพื่อบูรณาการ ประสานความเข้าใจ สร้างความร่วมมือในการทำงานและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในแต่ละพื้นที่เมื่อมีเหตุอาชญากรรม สำคัญหรือเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น และร่วมกันสนับสนุนและมอบหมายหน่วยงานภายในของแต่ละฝ่ายให้ทำหน้าที่ หน่วยประสานงานเพื่อกำหนดแนวทางและมาตรฐานการดำเนินงานร่วมกันเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อน