ผบช.ภ.1 แถลงความคืบหน้าคดี “แตงโม” สอบปากคำแล้ว 118 ปาก ยังต้องรอผลชันชันสูตรรอบ 2 ก่อนสรุปคดี ส่วนการนำ 5 คน บนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ ต้องประชุมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน ไม่ทราบเรื่อง “คุณหญิงพรทิพย์” โดนข่มขู่ หากไม่สบายใจก็พร้อมส่ง จนท.ไปดูแล
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 แถลงความคืบหน้าทางคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดาราสาว หลังพลัดตกเรือสปีดโบ๊ตในแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า เบื้องต้น สอบปากคำบุคคลไปแล้ว 118 ปาก ผู้กล่าวหา 3 ปาก ผู้ต้องหา 2 ปาก ประจักษ์พยาน 3 ปาก พยานแวดล้อม 92 ปาก และพยานผู้เชี่ยวชาญ 18 ปาก ขณะที่วัตถุพยานมี กล้องวงจรปิด 70 ตัว โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง จำนวน 14 คลิป
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค มีการเสนอให้มีการนำเครื่องจับเท็จ มาสอบสวนปากคำ 5 คนบนเรือ ว่า เครื่องจับเท็จ ไม่ใช่เครื่องมือพิเศษ เป็นเพียงเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ที่ไม่สามารถบอกได้ว่าพูดโกหก หรือพูดจริง ซึ่งเครื่องจับเท็จ เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยจับพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญใช้เครื่องมาดำเนินการ
ส่วนการจะนำคนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จหรือไม่นั้น ต้องมีการประชุมรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นสอบสวน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านคำให้การเพื่อวิเคราะห์ ไม่ใช่คิดจะนำเข้าเครื่องจับเท็จ จะนำเข้าเลยได้
ทั้งนี้ การเก็บเรือในคดีดังกล่าวที่ได้ยึดไว้เป็นของกลาง ก็เป็นการปฏิบัติตามแนวทาง เหมือนคดีรถชนทั่วไป เนื่องจากเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด เพื่อรอคำสั่งศาลต่อไป โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเก็บร่องรอยพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว
ซึ่งการยึดเรือไว้เนื่องจากเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิด เพื่อรอคำสั่งศาลต่อไปเท่านั้น เหมือนกับคดีรถชนทั่วไป ชนเสร็จแล้ว ยึดไว้โรงพัก หรือเป็นไปตามคำสั่งของศาลในชั้นดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม การสรุปสำนวนคดี ขณะนี้ยังขาดการรายงานผลการชันสูตรรอบ 2 และเมื่อส่งมาแล้วพนักงานสอบสวนจะต้องไปสอบพยานที่ทำหน้าที่ชันสูตรรอบ 2 เพื่อนำเข้าสู่สำนวนคดีด้วย ซึ่งหากผลขัดแย้งกับการชันสูตรครั้งแรกก็จะสอบสวนต่อไป ตำรวจดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน เร่งรัดการทำงานตลอดเวลา และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ซึ่งเป้าหมายคือการหาตัวผู้กระทำผิดมาส่งฟ้อง
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ยังกล่าวถึงกรอบระยะเวลาสรุปสำนวนส่งให้อัยการ ว่า ตามขั้นตอนกฎหมายคือ 60 วัน แต่สามารถขยายได้ ซึ่งตอนนี้สำนวนพร้อมแล้ว แต่ยังต้องรอหลักฐานที่ไม่ครบก่อน เพื่อนำรวมไว้ในสำนวน
ทั้งนี้ ฝากเรียนสื่อถึงกรณีที่ ผบ.ตร. ได้ชี้แจงเรื่องการทำคดี ขอให้ถ่ายทอดให้ครบถ้วน อย่าไปตัดเพียงบางท่อนบางตอนไปโพสต์ตามที่ต่างๆ เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความไขว้เขว ย้ำว่า ตอนนี้ตำรวจทำงานตามขั้นตอนของกฎหมายและอยู่ในห่วงเวลาที่กำหนด
ส่วนกรณี นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ และ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต จะต้องมารายงานตัวอีกครั้งเมื่อใด พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ทั้งคู่จะต้องมารายงานตัวอีกครั้งวันอังคารหน้า และมีกำหนดบวช 15 วัน ขณะนี้ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใครเพิ่มเติม
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ระบุว่า มีนายตำรวจใหญ่โทร.ไปข่มขู่ ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ทราบ หากไม่สบายใจก็ให้มาพบตนหรือตำรวจได้ พร้อมจะดูแล ยืนยันว่า ตำรวจระดับ ตร.ไม่มีแทรกแซงคดีแน่นอน การสอบสวนเป็นไปตามกฏหมายใครก็มาแทรกแซงไม่ได้
ส่วนกระโปรงสีขาวที่หายไปตำรวจยังไม่เจอ แต่จะคุยกับคุณแม่อีกครั้ง หากใครพบขอให้แจ้งมา และกรณีที่ ดีเอสไอ เตรียมแถลงเรื่องนี้ ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการประสานขอข้อมูลมาเรื่องมีคนร้องเป็นคดีพิเศษ เพราะแม่แตงโมเองก็ยังไม่ได้ประสงค์
ด้าน นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ได้มาร่วมฟังแถลงความคืบหน้าด้วย เปิดเผยว่า พอใจการทำงานของตำรวจและประทับใจมาตั้งแต่ต้น ส่วนการฌาปนกิจ แตงโม นั้น ขอให้คดีจบในชั้นตำรวจและส่งสำนวนให้อัยการเรียบร้อย หลังจากนั้น จะนัดทำพิธีหรืออาจถัดไปอีกครึ่งเดือน หรือ 1 เดือน และบอกว่าไม่จำเป็นต้องส่งเรื่องให้ดีเอสไอ เนื่องจากเห็นตำรวจทำงานหนักเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีรายละเอียดเยอะมาก
