“ข่าวลึกปมลับ”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 1 มีนาคม 2565 ตอน ร่องรอย “ปู” ออกไลฟ์ เบื้องลึกงัดข้อ “ทีมแม้ว”
การปรากฏตัวของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ผ่านเฟซบุ๊กไฟล์เพจของตัวเองครั้งแรก ไม่ฮือฮาเท่าไหร่นัก ทั้งที่เลือกวันที่ 28ก.พ.ที่ผ่านมา เพราะคงไม่ใช่ “เรื่องบังเอิญ” แน่นอน
ย้อนไป 14 ปีก่อน 28 ก.พ.ปี 2551 คือวันที่ “พี่ชาย” อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กลับมา “กราบแผ่นดินไทย” นั่นเอง ซึ่งในเวลานั้น “ทักษิณ” ก็อยู่ที่ไทยเพียง 5 เดือนก่อนไม่ได้กลับมาประเทศไทยอีก
ดังนั้นการเลือกวันที่ 28 ก.พ. จึงมีนัยการเมืองซ่อนอยู่ ไม่ใช่เพียง “ฤกษ์สะดวก” แน่นอน
ทั้งนี้มีการมอง 2 ปัจจัยที่ “ยิ่งลักษณ์” เลือกเฟซบุ๊กไลฟ์ครั้งแรก คือ กระแสของ “พี่ชาย” เริ่มลดลง ในระยะหลังที่ความฮือฮาและเอฟซีติดตามลดลง ทำให้ “ยิ่งลักษณ์” ชิงใช้โอกาสนี้
อีกด้านเพื่อส่งสัญญาณถึงคนในพรรค หลังมีกระแสข่าวว่า ส.ส.เพื่อไทย ถูกดูด หรือเรียกว่ากำลัง “เลือดไหล” แถมบรรดา “บ้านใหญ่” ที่ไปอยู่พรรคฝั่งรัฐบาล ก็ไม่มีท่าทีจะกลับมาพรรคเพื่อไทย
.
มองไปไกลกว่าเรื่อง “วันสัญลักษณ์” คือ “ทีมเบื้องหลัง” ที่ล้วนเป็น “ขุนพล” อดีตพรรคไทยรักษาชาติ” (ทษช.) เพราะพิธีกรที่สัมภาษณ์ “กาย-พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ” ก็คืออดีตโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ ที่ถูกตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี
โดยกลุ่มอดีตแกนนำพรรค ทษช. หลายคนได้ชื่อว่าเป็น “สายเจ๊ปู” หนีมาซบ “พรรคลูก” ในยุคที่ “หญิงหน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เรืองอำนาจในพรรคเพื่อไทย เมื่อพรรคเพื่อไทยปรับโครงสร้างใหม่ ทำให้ “หญิงหน่อย” ยกธงขาว ก็ทำให้ขุนพลอดีต ทษช. กลับเข้า “พรรคแม่” อีกครั้ง
ทว่ากลับไม่จบเท่านี้ แม้ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” จะแนบแน่น เป็นพี่น้องทางสายโลหิต แต่ “บริวาร” ของทั้งคู่กลับไม่เป็นเอกภาพ ฟากฝั่ง “ทักษิณ” ก็มีก๊วนที่ “มากพรรษา” ทำการเมืองมาด้วยกันตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย
เช่น “เฮียอ้วน”ภูมิธรรม เวชยชัย “หมอมิ้ง”นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช “หมอเลี้ยบ”นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่มาทำงานในนาม “กลุ่มแคร์” และปลุกปั้น “ทักษิณ” ผ่านการจัดรายการในช่องทางคลับเฮ้าส์
แต่ “เฮียอ้วน-หมอมิ้ง-หมอเลี้ยบ” แม้มีวิชามาก แต่ไม่มีทุนมากนัก ซึ่งก็ได้ “เฮียเพ้ง”พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล มาอุดช่องในจุดนี้
ฟากฝั่ง “ยิ่งลักษณ์” มีคนรุ่นใหม่รายล้อม แต่ “พรรษา” ทางการเมือง ไม่ได้มากเท่าฝ่าย “ทักษิณ” แถมถูกตัดกำลังไปเพราะอดีตพรรค ทษช. ถูกยุบ และกรรมการบริหารพรรคฯ ถูกตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี แต่งานนี้ “ยิ่งลักษณ์” ก็ได้ “แจ๋น”พวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตแกนนำ ทษช. มาเป็นขุนพลทางสมองและทุนในการสู้ศึก
ทั้งหมดสะท้อนภาพการ “แข่งขันเอง” ภายใน 2 ขั้วของ “พรรคเพื่อไทย” ภายใต้ “คลัสเตอร์ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ที่ต่างต้องมีที่ทางของตัวเอง รวมทั้งการส่งสัญญาณต่างๆทางการเมือง
ดังนั้นการออกมาครั้งนี้ของ “ยิ่งลักษณ์” จึงบอกอะไรได้มากกว่า แค่มาพบ “เอฟซี” ให้หายคิดถึงเท่านั้น