ศาลสั่งยึดรถฮาร์เลย์ เน็ตไอดอลดังขี่ปล่อยมือ-ยืนบนเบาะที่นั่ง กลางถนนเยาวราช ชี้ พฤติกรรมประมาทอย่างร้ายแรง เสี่ยงก่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง จึงให้ยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้กระทำความผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 6 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกฤษฎาภรณ์ ชีพสัตยากร หรือ แก้ว เน็ตไอดอลชื่อดัง ขี่รถซิ่ง เป็นจำเลย ในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กรณีขี่รถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนกลางถนนเยาวราช มุ่งหน้าแยกเฉลิมบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา
ในวันฟ้องศาลสอบถามจําเลยเรื่องทนายความแล้ว แต่จำเลยแถลงต่อศาลว่าไม่ต้องการทนายความ นอกจากนี้ ศาลได้แจ้งให้จำเลยทราบถึงสิทธิและหน้าที่การบรรเทาความเสียหาย และอื่นๆ ในกระบวนการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา
ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 การกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ฐานใช้รถที่ไม่มีการประภัย ปรับ 5,000 บาท ฐานใช้รถที่ไม่เสียภาษีประจำปี ปรับ 600 บาท ฐานขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถตามธรรมดา หรือไม่อาจแลเห็นทางด้านหน้าหรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่ง หรือทั้งสองด้าน ได้พอแก่ความปลอดภัยและโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นปรับ 5,000 บาท รวมปรับทั้งสิ้น 10,600 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 5,300 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ให้กักขังแทนค่าปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ มาตรา 30
และเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า จำเลยขับรถจักรยานยนต์ไปตามถนนสาธารณะ ซึ่งเป็นเขตชุมชน และมีผู้คนอยู่อาศัย และมีรถสัญจรเป็นจำนวนมาก แต่จำเลยขับรถจักรยานยนต์ในลักษณะท่าทางยืนบนที่นั่งคนขับ และกางแขนทั้งสองข้างเพื่อทรงตัวบนรถจักรยานยนต์ที่กำลังวิ่งอยู่โดยไม่ใช้มือควบคุมรถจักรยานยนต์แต่อย่างใด อันเป็นการขับรถจักรยานยนต์โดยประมาทอย่างร้ายแรง เสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุและก่อความเสียหายแก่ชีวิตร่างกาย รวมถึงทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้ อันเป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยความเดือดร้อนของผู้อื่น รวมถึงไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง รถจักรยานยนต์ของกลาง จึงเป็นทรัพย์สินซึ่งจำเลยได้ใช้เป็นการกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 จึงให้ริบรถจักรยานยนต์ของกลางด้วย
