ตำรวจพญาไท สรุปสำนวนคดี และส่งตัว ส.ต.ต.ซิ่งบิ๊กไบค์ ชนหมอกระต่ายดับ ขณะเดินข้ามทางม้าลาย ให้อัยการพิจารณาฟ้อง 9 ข้อหาหนัก ด้านอัยการนัดฟังคำสั่ง 22 ก.พ.นี้
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (10 ก.พ.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท ได้สรุปสำนวนการสอบสวนคดี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ผู้ต้องหาขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1 กผ 9942 ชน พญ.วราลัคน์ หรือ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายใกล้แยกพญาไท จนเสียชีวิต ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง พร้อมกับนัด ส.ต.ต.นรวิชญ์ ผู้ต้องหามารายงานตัวกับอัยการ โดยมี นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และ นายธวัชชัย หัตถะปนิตร์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสำนวนคดีจะลงมารับมอบสำนวน และแถลงข่าวร่วมกับ พ.ต.อ.บวรภพ ผกก.สน.พญาไท
โดย นายอิทธิพร โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สน.พญาไท แจ้งข้อหารวม 9 ข้อหา ดังนี้ 1. ฐานขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. ความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ฐานรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 3. ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย 4. ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม) 5. พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ข้อหาฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี 6. ไม่จัดให้รถในทางเดินรถมีส่วนควบที่ครบถ้วนตามกฎหมายและใช้การได้ดี 7. ไม่จัดให้มีการประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถปี 2535 8. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น และ 9. ขับขี่รถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
สำหรับในชั้นต่อไปหลังจากสำนักงานคดีอาญารับสำนวน พร้อมผู้ต้องหาไว้แล้ว ก็จะมอบหมายให้นายธวัชชัย เป็นผู้พิจารณาสำนวน โดยนัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง วันที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น.
นายประยุทธ์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า พนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาหนักที่สุด คือ ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อัตราโทษจำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท แต่ข้อหาทั้งหมดที่ทางอัยการจะสั่งฟ้อง ต้องให้คณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีก่อน ซึ่งจะพิจารณาอย่างรอบคอบ รัดกุม เป็นธรรม และรวดเร็วที่สุด
นายประยุทธ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว ญาติของ พญ.วราลัคน์ หรือ หมอกระต่าย ไม่จำเป็นต้องจ้างทนายความฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง แต่สามารถยื่นเรื่องให้อัยการดำเนินการให้ได้ทันที โดยอัยการจะแจ้งว่ามีค่าเสียหายอะไรบ้าง และยื่นคำขอค่าเสียหายทางแพ่งต่อศาลอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีทางแพ่ง มาตรา 44/1 นอกจากนี้ อัยการจะพิจารณาประเด็นเพิ่มเติมว่า ถ้าหากผู้ต้องหามีพฤติกรรมร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 162 อัยการจะมีคำขอให้พักใบอนุญาตขับขี่ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีวิต โดยขอให้รอฟังคำสั่งฟ้องในวันที่ 22 ก.พ. นี้
เมื่อถามว่า จะมีการลงโทษ ส.ต.ต.นรวิชญ์ สถานหนักหรือไหม เพราะเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย
นายอิทธิพร กล่าวว่า ในส่วนนี้ขอพิจารณาสำนวนก่อน ถ้าหากตอบในตอนนี้จะเร็วเกินไป
นายธวัชชัย อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ในฐานะหัวหน้าคณะพิจารณาสำนวนคดีนี้ ระบุว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หากข้อเท็จจริงในสำนวนมีความละเอียดครบถ้วน ทางเรามั่นใจว่า จะสั่งฟ้องคดีได้ทันภายในวันที่ 22 ก.พ. แน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.บวรภพ ผกก.สน.พญาไท กล่าวว่า สำหรับประเด็นผู้ครอบครองรถก่อนหน้านี้ ที่ซื้อ-ขายโอนลอยมาเป็นทอดๆ นั้น เราพบว่า เป็นการซื้อขายอย่างถูกต้องจากร้านขายรถจักรยานยนต์ มีเอกสารสัญญาซื้อขายครบถ้วน รวมทั้งได้ตรวจสอบประเด็นว่า เป็นรถจักรยานยนต์ของกลางในคดี หรือได้มาจากการโจรกรรมในคดีใดหรือไม่อย่างไร โดยตรวจสอบไปยังศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทะเบียนประวัติก็ไม่มีข้อมูลการแจ้งหาย หรือเป็นรถของกลางในคดีท้องที่ใด ผู้ที่ถูกดำเนินคดีและมีความผิด จึงมีเพียง ส.ต.ต.นรวิชญ์ ผู้ต้องหาเพียงรายเดียวเท่านั้น