“ข่าวลึกปมลับ”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ตอน “ยุบสภา” เจอ “สุญญากาศ” เข้าทาง บิ๊กตู่
ตามคิวที่พรรคเพื่อไทยเปิดยุทธการไม่ร่วมยืดอายุรัฐบาล กดดันประยุทธ์ยุบสภา คืออำนาจให้ประชาชน ทำให้องค์ประชุมสภาล่มสองวันติดๆ เกมนี้หัวพรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว เปิดหน้าชกเอง เสียด้วย
หมอชลน่าน ชี้แจงเหตุผลที่ต้องลุยบิ๊กตู่กันซึ่งๆหน้าเพราะ “1 เป็นเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทยโดยชัดเจน ที่ไม่ให้ประยุทธ์ อยู่ต่อสืบทอดอำนาจ ต้องใช้กลไกตรวจสอบการทำหน้าที คณะรัฐมนตรีและ สส.ฝ่ายรัฐบาลอย่างเข้มข้น
2ประยุทธ์อยู่ต่อไปได้ถ้าเสียง สส.รัฐบาลเกินกึ่งอยู่ตลอด ขณะนี้ สส.ฝ่ายรัฐบาลแตกแยกกัน มาทำหน้าที่ในสภาไม่เกิน 200 คน มันเป็นสัญญาณว่าประยุทธ์อยู่ต่อไปไม่ได้
และทิ้งท้ายว่า ฝ่ายค้านเราที่ไปเป็นองค์ประชุม จะสนับสนุนให้ประยุทธ์อยู่ต่อหรือ? รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเพียงเพื่อสร้างคะแนนนิยม”
งานนี้ หาก บิ๊กตู่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยุบสภา ขึ้นมาจริงๆ พรรคเพื่อไทยคิดอย่างไรกับกฎหมายลูก 2 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ยังไม่ได้เริ่มเข้าสู่วาระที่ 1 เลย เพราะจะมีปัญหาทำให้กติกาการเลือกตั้งตกอยู่ในมือรัฐบาล เป็นฝ่ายเขียนเอง
ร่างกฎหมายลูกทั้งสองสองฉบับ จะมีการพิจารณาวาระที่ 1 ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ต่อจากคิวซักฟอกแบบไม่ต้องลงมติ หรือ อภิปรายตีเช็กเปล่าของฝ่ายค้านในช่วงกลางเดือนก่อน ถึงจะได้เริ่มกัน
จากนั้นเข้าสู่ชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญ กินเวลาเดือนมีนาคม และเมษายน แล้วกลับมาพิจารณาวาระที่ 2 และ 3 กันในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเปิดประชุมสภาสมัยสามัญพอดี
ยกเว้นมีคนใจร้อนอยากจะพิจารณาวาระที่ 2 แบบรวดเร็ว ก็ทำเรื่องขอรัฐบาลให้ช่วยออกพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญให้
แต่หากปล่อยให้เป็นไปตามไทม์ไลน์ รอพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในเดือนพฤษภาคม เสร็จแล้วจะต้องส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา ว่าเห็นชอบด้วยหรือไม่ หากเห็นชอบไม่มีปัญหา แต่หากไม่เห็นชอบ ต้องยึดเอาตาม กกต.เป็นหลัก
เบ็ดเสร็จระยะเวลาในมือของ กกต.จะอยู่ที่ 1 เดือน คือตลอดระยะเวลาเดือนมิถุนายน เสร็จแล้วส่งให้รัฐบาลนำขึ้นทูลเกล้าฯ จากนั้นรออีก 90 วัน คือ กรกฎาคม – กันยายน
อย่างเร็วที่สุด กฎหมายมีผลบังคับใช้เดือนกรกฎาคม ไม่มีเร็วกว่านี้แน่ และอย่างช้าที่สุดเดือนกันยายน กรณีมีผลบังคับใช้เดือนกันยายน จากนั้นถึงจะยุบสภาแบบไม่ต้องมีอะไรมากังวลใจได้
แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยจะเร่งให้ บิ๊กตู่ จะยุบให้ได้เร็ววัน มันจะเข้าสู่โหมดความเสี่ยง เผลอๆ จะเตะหมูเข้าปากหมาเสียด้วย เพราะขณะนี้รัฐธรรมนูญ เวอร์ชั่นบัตรเลือกตั้งสองใบ มีผลบังคับใช้แล้ว แต่ยังขาดรายละเอียดเรื่องการนับคะแนน
หากกดปุ่มยุบสภา มี 2 ทางเลือกที่หาวิธีการนับคะแนนได้ นั่นคือ ให้ กกต.ออกประกาศวิธีการนับคะแนน ซึ่ง วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า กกต.ไม่กล้า
ขณะที่อีกวิธีคือ ให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก.แทน แต่ฝ่ายค้านคงไม่แฮปปี้แน่ กับการยกอำนาจการออกแบบกำหนดกติกานับคะแนนให้กับรัฐบาล
เพราะรัฐบาลคงไม่เลือกวิธีการนับคะแนนให้ตัวเองเสียเปรียบ
ที่มันเสี่ยงคือ มันมีโอกาสจะพาไปสู่สุญญากาศได้ ซึ่งจะเป็นผลดีกับ บิ๊กตู่ ด้วย เพราะหาก กกต.ยอมออกประกาศกติกาเลือกตั้งให้ แต่ถ้าปรากฏว่า มีการคนไปยื่นศาลว่า ประกาศดังกล่าวไม่ชอบ หรือขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งก็ค้างเติ่งทันที ขณะที่ บิ๊กตู่ ก็ต้องทำหน้าที่รักษาการแบบไม่มีอำนาจอะไรเบ็ดเสร็จ จนกกว่าจะมีการเลือกตั้ง
เช่นเดียวกับการตรา พ.ร.ก. เพื่อดีไซน์วิธีนับคะแนน หากรัฐบาลตราแล้ว มีการเอาไปร้องต่อศาลว่าไม่ชอบหรือขัดต่อบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับกติกา มันก็จะเข้าอีหรอบสุญญากาศเช่นกัน
รัฐบาลยุบสภาไปแล้ว ขณะที่สองวิธีการใช้ไม่ได้ ประเทศไทยเข้าสู่เดดล็อก และเสียบปลั๊กเข้าทาง บิ๊กตู่ อีก