xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้วโจ๋ปทุมฯ คืนเดียวปล้นปั๊มน้ำมันใน 2 พื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



สืบสวน สภ.คูคต ตามจับโจ๋ปล้นปั๊มน้ำมัน สกัดจับหัวโจกได้ขณะกำลังหลบหนีไปชลบุรี พร้อมของกลาง ผู้ต้องหารับสารภาพ แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และพยายามฆ่า ขยายผลรวบได้ยกแก๊ง เตรียมนำตัวผู้ต้องหา 3 คน ฝากขังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ส่วนอีก 1 คน จะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี

ที่สถานีตำรวจภูธรคูคต จังหวัดปทุมธานี จับกุมคดีร่วมกันปลันทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภจว.ปทุมธานี, พล.ตตวสันต์ ตชะอครเกษม ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต, พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์, พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมจริญ รอง ผกก.สส.สภ.คูคต, พ.ต.ท.นิเวศน์ นิลวดี รอง ผกก.สส.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า เนื่องด้วย สถานีตำรวจภูธรคูคต จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายจำนวน 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ พร้อมใช้อาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก เข้าไปทำการปล้นพนักงานปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาคลอง 1 ถนนลำลูกกา ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และได้ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ธันยากานต์ จุลเสวก (พนักงานปั๊ม) เข้าบริเวณใต้ราวนมด้านขวา จำนวน 1 นัด เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.บีแคร์ โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง และเงินสดจำนวนประมาณ 3,550 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วหลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา ดังนี้ 1. นายไชยา หรือ เมฆ ทีลิ้นฟ้า อายุ 20 ปี ที่อยู่ 6/1 ม.7 ต.นุ่งคล้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ 2. นายฟิว อายุ 16 ปี 3. นายโย อายุ 14 ปี 4. นายออม อายุ 14 ปี และ 5. นายณัฐวุฒิ โคนหลัก อายุ 18 ปี ที่อยู่ 60/113 หมู่ที่ 18 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยของกลาง

1. อาวุธปืนแม็กกาซีน ขนาดลำกล้องประมาณ 3 นิ้ว แบบหักลำสีเงิน ขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 กระบอก
2. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อวิโว่ สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง
3. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง
4. ธนบัตรจำนวน 2,910 บาท
5. เหรียญเงินจำนวน 149 บาท
6. กระเป๋าสะพายยี่ห้อ jน Long จำนวน 1 ใบ

ทางด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ยังกล่าวอีกว่า พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 01.10 น. ศูนย์วิทยุ สภ.คูคต ได้รับแจ้งเหตุจากสายด่วน 191 ว่า มีคนร้ายจำนวน 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ พร้อมใช้อาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก เข้าไปทำการปลันพนักงานปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาคลอง 1 ถ.สำลูกกา ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และได้ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ธันยากานต์ จุลเสวก พนักงานปั๊ม เข้าบริเวณใต้ราวนม ด้านขวา จำนวน 1 นัด เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.บีแคร์ โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง และเงินสดจำนวนประมาณ 3,550 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วหลบหนีไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและทราบจากกลุ่มวัยรุ่นสายลับ ว่า นายเมฆ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเป็นคนร้ายที่ 1 กำลังจะเดินทางหลบหนี ไปกับรถยนต์ขายกับข้าวของญาติไปจังหวัดชลบุรี โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน ฒล 6686 กรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าเป็นรถที่คนร้ายหลบหนี มุ่งหน้าถนนขึ้นมอเตอร์เวย์ บริเวณถนนลำลูกกาคลอง 4 โดยใช้เส้นทางไป จ.ชลบุรี จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงพิเศษ เพื่อสกัดรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จนกระทั่งสามารถสกัดจับ นายไชยา (หรือเมฆ) ทีลิ้นฟ้า คนร้ายที่ 1 ได้บริเวณทางหลวงพิเศษกิโลเมตรที่ 67 โดยตรวจพบ อาวุธปืนแม็กกาชีน ขนาดสำกล้องประมาณ 3 นิ้ว แบบหักลำสีเงิน ขนาด. 38 ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 กระบอก พบซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้เบาะ ที่นั่งด้านหลังผู้โดยสาร และตรวจพบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อวีโว่ สีน้ำเงิน และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง สีแดง ซึ่งสอบถามผู้ต้องหา ให้การรับว่า เป็นโทรศัพท์ของผู้เสียหายจำนวน 2 เครื่อง ที่ได้ปล้นมา และเงินสดธนบัตรจำนวน 6,400 บาท เหรียญเงินจำนวน 149 บาท ตรวจพบจากกระเป๋ากางเกงข้างขวา และซ้ายของผู้ต้องหา จากนั้นจึงควบคุมตัวกลับมาที่โรงพักคูคต

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ขยายผลการจับกุม ทราบว่า ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุยังมีอีกสองคนคือ ด.ช.ณัฐวิชญ์ (หรือโย) ทองพูล อายุ 14 ปี และ นายสุริยันต์ (หรือฟิว) แสงม่วง อายุ 16 ปี พร้อมกับการตรวจยึดอาวุธปั้นปากกาขนาดจุด .38 ที่ใช้ยิงผู้สียหายได้รับบาดเจ็บ และหมวกกันน็อก พร้อมเสื้อผ้าที่ผู้ก่อเหตุสวมใส่ ขณะก่อเหตุ จึงได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวนขยายผลเพิ่มเดิมพบว่า นายไชยา (หรือเมฆ) ทีลิ้นฟ้า ผู้ต้องหา ได้มีการก่อเหตุเพิ่มเติม ในพื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้นำพยานหลักฐาน ที่คนร้ายก่อเหตุ มาทำการสืบสวนสอบ ก่อนขยายผลกับตัวผู้ต้องหา จนทราบว่า เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 03.00 น. หลังจากที่ 3 ผู้ต้องหา ได้ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.คูคต แล้วนั้น ยังได้ร่วมกันกับ ด.ช.นพเก้า (หรือออม) ก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน ที่บริเวณปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ริมถนนรังสิต-นครนายก คลองสอง ในพื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวนประมาณ 33,200 บาท แล้วหลบหนีไป

ต่อมาสามารถจับกุมตัว นายนพเก้า ได้พร้อมของกลางและสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการก่อเหตุ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยทาง พลตำรวจโท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวจับวัยรุ่นก่อเหตุปล้นและชิงทรัพย์ใน 2 พื้นที่ คือ สถานีตำรวจภูธรคูคต และ สถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ว่า เหตุการณ์นี้แบ่งเป็น 2 พื้นที่ เริ่มแรกที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ย่านคลองหนึ่ง ลำลูกกา กลุ่มวัยรุ่น 3 คน (เมฆ, โย, ฟิว) ขี่รถจักรยานยนต์ก่อนใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ .38 มม. ยิงลงพื้น และใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 ประเภทปืนปากกา ยิงโดนพนักงานในปั๊มน้ำมัน บริเวณใต้ราวนมข้างขวา ได้รับบาดเจ็บ ก่อนปล้นเงินจากกระเป๋าเก็บเงินของพนักงาน รวมถึงโทรศัพท์อีก 2 เครื่อง ก่อนหลบหนีไปยังบ้านเพื่อนหลังหนึ่ง

จากนั้นช่วงเวลาตี 2 เศษ นายเมฆ ที่ก่อเหตุในปั๊มน้ำมันแห่งแรก ได้ชักชวนเพื่อนอีกหนึ่งคน (ออม) ไปก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนรังสิต-นครนายก พื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์พนักงานประมาณ 30,000 บาท พร้อมยิงปืน 1 นัด แต่ไม่โดนใคร ก่อนหลบหนีโดยรถจักรยานยนต์อีกคนหนึ่งไป

ต่อมาทางตำรวจได้รับแจ้งเหตุ ก่อนให้ชุดสืบสวนไล่ล่าคนร้าย หลังทราบว่าเป็นใคร ก่อนสามารถจับคนร้ายได้ อยู่ระหว่างหลบหนีโดยรถยนต์บริเวณมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี โดยสามารถสกัดจับได้ที่ด่านบางปะกง เบื้องต้นนายเมฆ ยอมรับว่า ก่อเหตุจริงทั้ง 2 คดี ซึ่งมีผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน (บางจาก 3 คน ที่ปั๊มเอสโซ่ 1 คน โดยนายเมฆ อยู่ทั้ง 2 เหตุการณ์) ส่วนจากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ ก่อนก่อเหตุมีอาการมึนเมา เพราะได้ไปมั่วสุมกินน้ำกระท่อม และยากล่อมประสาทหมดแผง (โรเช่) ที่บ้านหลังหนึ่ง ประกอบกับล่าสุดยังให้การวกวน และยังมีอาการมึนเมาอยู่ หลังจากนี้ ต้องสืบสวนขยายผลทุกประเด็นและที่มาของปืนว่าซื้อมาจากเฟซบุ๊กหรือไม่ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และพยายามฆ่า รวมถึงครอบครองอาวุธปืน”

ส่วน นายแบงค์ แม้ว่าจะไม่ได้ไปก่อเหตุ แต่ผู้ต้องหาเอาปืนไปฝากไว้ หลังจากนี้ จะนำเยาวชน 3 คน ไปฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ส่วนอีก 1 คน จะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี










กำลังโหลดความคิดเห็น