xs
xsm
sm
md
lg

ใหญ่แค่ไหนก็สิ้นลาย "เอส บางแค" ทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมมอบตัวคดียิงคู่กรณีกลางตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอส บางแค ผู้มีอิทธิพลที่ชาวโซเชียลฯ จ้องตาไม่กะพริบ ทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมมอบตัวต่อพ่อเพื่อน พร้อมของกลางอาวุธปืนบาเร็ตต้า อ้างคู่กรณีหยิบมีดขู่ก่อนเลยชักปืนขู่ ไม่ได้กะเอาให้ตาย รอง ผบช.น.สั่งนครบาล 9 สอบปมผู้มีอิทธิพลไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่อง ยันแค่เรื่องทะเลาะวิวาท ไม่ใช่มาเฟีย

วันนี้ (23 พ.ย.) จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2” ออกมาแฉว่ามีวัยรุ่นกร่างควงปืนบุกยิงพ่อค้าตลาดบางแคเพราะเรื่องที่จอดรถ พร้อมประกาศกร้าวกูคือ “เอส บางแค” ที่สำคัญน่าจะขาใหญ่จริง เพราะตำรวจ สน.เพชรเกษมนัดคนเจ็บมาขอให้ไกล่เกลี่ยและรับเงิน พร้อมไม่ให้ไปเอาเรื่องเอาราว ที่สำคัญห้ามบอกนักข่าวเด็ดขาด โดยพบว่าผู้เสียหายถูกนายเอส บางแค กระหน่ำยิง 3 นัด กระสุนถูกนิ้วก้อยเท้าข้างซ้ายกระดูกแตก ก่อนนำกระบอกปืนมาตบที่หูซ้ายต้องเย็บถึง 3 เข็ม เหตุเกิดที่ตลาดกิตติ บางแค ถนนเพชรเกษม เขตบางแค กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา

ภายหลังผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม ปรากฏว่ามีชายลักษณะคล้ายคนในเครื่องแบบพยายามเข้ามาเจรจาขอไกล่เกลี่ยและจ่ายเงินเยียวยาเพื่อให้จบเรื่อง แต่ผู้เสียหายไม่ยอม ต้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนเพราะเกรงว่าตนเองจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และพบว่าคนที่ใช้ชื่อ "เอส บางแค" มีรายงานว่าเป็นลูกชายอดีตนายตำรวจย่านฝั่งธนบุรี เคยไปก่อเหตุยิงผู้อื่นลักษณะคล้ายกันแบบนี้มาแล้ว เวลามึนเมามักมีนิสัยเกเรไม่กลัวใคร แต่หลังก่อเหตุก็จะมีการเจรจาเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี คาดว่าหลังก่อเหตุหลบหนีไปจังหวัดเพชรบุรี ตามที่รายงานข่าวไปแล้วนั้น

อ่านประกอบ : แฉ “เอส บางแค” ใหญ่จริง บุกยิงพ่อค้าจนหวาดผวา แม้แต่ สน.เพชรเกษมยังเกรงใจ 

ล่าสุด หลังเกิดกระแสกดดันในโซเชียลฯ รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ สน.เพชรเกษม นายกนก เข็มหนู หรือ อุ้ม อายุ 40 ปี นายเศรษฐี เตชะบุญรักษา หรือ เอส บางแค อายุ 27 ปี และนายสุรารักษ์ ทองแท้ หรือ ออฟ อายุ 42 ปี คนที่ขี่รถจักรยานยนต์มากับนายเอส เข้ามอบตัวต่อตำรวจ สน.เพชรเกษม พร้อมของกลางอาวุธปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด .635 มม. โดยมีบิดาของนายกนก หรืออุ้ม อายุ 62 ปี เป็นคนพาเข้ามามอบตัว

บิดานายกนก หรืออุ้ม ระบุว่า วันเกิดเหตุ ผู้เสียหายเข้ามาผลักอกนายอุ้ม และชักมีดออกมา ทำให้นายเอสที่เดินทางมาด้วยใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าและยิงลงดิน ทำให้สะเก็ดกระสุนปืนไปถูกผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ ยืนยันว่านายอุ้มไม่รู้เรื่องอาวุธปืน และไม่ทราบว่านายเอสนำอาวุธปืนติดตัวมาได้ยังไง แต่ยอมรับว่านายเอสเป็นคนอารมณ์ร้อน ต่างกับนายอุ้ม ลูกชายเป็นคนใจเย็น ไม่ได้เป็นคนเกเร ส่วนนายสุรารักษ์ หรือออฟ ทราบว่าเป็นวินรถจักรยานยนต์ที่นายเอสว่าจ้างให้ไปส่งคืนวันเกิดเหตุเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่านายเอสไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาชีวิต และนายเอสไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล แต่ยอมรับว่าคนในพื้นที่รู้จักเพราะเติบโตมาจากย่านบางแค และทำธุรกิจค่ายมวยกับค้าขาย

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยังคงให้การปฏิเสธ โดยเฉพาะนายเศรษฐี หรือ เอส บางแค อ้างว่าฝ่ายคู่กรณีจะเข้ามาทำร้ายนายอุ้มก่อน เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงชักปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อขู่นัดแรก ส่วนนัดที่สองยิงลงพื้นแต่กระสุนไปโดนนิ้วเท้าของคู่กรณี และนัดที่สามยิงเพื่อข่มขู่เท่านั้น ส่วนสาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาทเรื่องขอให้เคลื่อนย้ายรถ ส่วนนายสุรารักษ์ หรือออฟ เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พาหลบหนี

เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่านายเอสไม่เคยต้องโทษคดีอาญาร้ายแรง มีแต่คดีหมิ่นประมาทกับภรรยาคนเก่า เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ส่วนอาวุธปืนบาเร็ตต้าของนายเอส พบว่าเป็นปืนไม่มีทะเบียน หรือปืนเถื่อน ซึ่งนายเอสให้การว่ารับซื้อจากบุคคลอื่น เพิ่มข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาปืนไปในที่้สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนโดยใช่เหตุ รวมเป็น 4 ข้อหา ก่อนที่พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษมจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญาธนบุรี ถนนเอกชัย เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว

ด้าน พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ระบุว่าจะสั่งการให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่ามีการใช้อิทธิพลควบคุม โดยเฉพาะกรณีที่มีอดีตนายตำรวจเข้ามาไกล่เกลี่ย ยืนยันว่า ชนวนของเรื่องนี้เป็นเรื่องทะเลาะวิวาท ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามตัวและกดดัน จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กำลังโหลดความคิดเห็น