xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกาสอบคำให้การ “ธนิกานต์” ส.ส.พลังประชารัฐ ฝ่าฝืนจริยธรรม เสียบบัตรแทนกันในสภาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


น.ส.ธณิกานต์  พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.
ศาลฎีกาไม่อนุญาต “ธนิกานต์” ขอจำหน่ายคดีฝ่าฝืนจริยธรรม เสียบบัตรเเทนกัน หลังเจ้าตัวอ้างเหตุรอคดี ในศาลฎีกานักการเมืองข้อเท็จจริงเดียวกัน เเต่อนุญาตใช้คำเบิกความพยานเดียวกันได้นัดพร้อม 26 เม.ย.ปีหน้า

วันนี้ (11 พ.ย.) ศาลฎีกานัดพิจารณาคดีครั้งแรก (สอบคำให้การ)  ในคดีที่ ป.ป.ช.ยื่นร้อง น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เรื่องการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากการเสียบบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. เหรียญราชรุจิ ร.10 โดยพฤติกรรมดังกล่าวถือว่า ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 6-8, 11, 17 และ 27 ซึ่งศาลฎีกา มีคำสั่งให้รับคำร้องเมื่อเดือน ส.ค. มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่และนัดพิจารณาครั้งแรกหรือไต่สวนพยานผู้ร้องในวันนี้เวลา 09.30 น.

วันนี้ น.ส.ธณิกานต์ เดินทางมาศาลพร้อมทนายความ น.ส.ธณิกานต์ เผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2562 เป็นช่วงที่มีการลงคะแนนและบรรยากาศเต็มไปด้วยความโกลาหล มีการประท้วงเรื่องระบบการลงคะแนนมีปัญหาตลอดครึ่งเช้า และต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอกทันที ตั้งใจทำงานมาตลอด เป็นไปไม่ได้ที่จะฝากบัตร ตอนนั้นเป็นเหตุการณ์ 2 ปีที่แล้ว น่าจะกังวลเพราะเครื่องมีปัญหา พร้อมพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม หลังไม่ได้ชี้แจงในชั้นการพิจารณาของ ป.ป.ช.

ทั้งนี้ ยอมรับว่า หลังศาลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เสียโอกาสในการพิจารณากฎหมาย ในฐานะผู้แทนประชาชน แต่ก็ยังลงพื้นที่ช่วยประชาชน หลังประสบปัญหาโควิดและน้ำท่วม

เมื่อถึงเวลานัด ปรากฏว่า คู่ความทั้งสองฝ่ายมาศาล โดยกรณีดังกล่าวยังเป็นคดีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีหมายเลขดำ อม.19/2564 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งพฤติการณ์ของคดีมีข้อเท็จจริงเดียวกันกับคดีที่ ป.ป.ช.ร้องต่อศาลฎีกา ซึ่ง น.ส.ธนิกานต์ แถลงว่า หากจะนำคำเบิกความของสำนวนคดีในศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาเป็นถ้อยคำพยานในคดีนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเบิกความซ้ำซ้อนกัน ศาลไม่คัดค้าน แต่ขอให้มีการไต่สวนพยานปากเดิมเพิ่มเติมในประเด็นอื่น หรือพยานใหม่ และขอให้จำหน่ายคดีนี้ชั่วคราวเพื่อรอการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ซึ่งในส่วนของ ป.ป.ช.ก็ไม่คัดค้านที่จะนำคำเบิกความมาเป็นถ้อยคำในคดีนี้เช่นกัน แต่ประสงค์ให้ไต่สวนต่อโดยไม่รอผลการพิจารณาของศาลฎีกาฯ นักการเมือง

องค์คณะพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อพยานสองคดีเป็นชุดเดียวกัน และนำสืบในข้อเท็จจริงเดียวกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ให้นำบันทึกถ้อยคำของคดี อม. 19/2564 มารวมเป็นถ้อยคำของคู่ความทั้งสองฝ่ายในคดีนี้ และอนุญาตให้ไต่สวนพยานปากเดิมในข้อเท็จจริงที่ไม่ซ้ำกัน โดยไม่จำเป็นต้องจำหน่ายคดีนี้ไว้ชั่วคราว โดยศาลนัดพร้อมในวันที่ 26 เม.ย. 2565 เวลา 09.30 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น