ศาลฎีกานัดสอบคำให้การ คดี “ประหยัด พวงจำปา” ถูกกล่าวหา ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สินเท็จ มูลค่า 200 ล้าน ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ นัดตรวจหลักฐาน 24 ธ.ค.นี้
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เมื่อเวลา 11.00 น. องค์คณะผู้พิพากษา ออกนั่งบัลลังก์นัดพิจารณาครั้งแรก (สอบคำให้การ) ในคดีที่อัยการสูงสุด โจทก์ ยื่นฟ้อง นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ซึ่งถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นจำเลย
ในความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2560 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์ควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินจำนวน 6 รายการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินและหนี้สินในชื่อของ นางธนิภา พวงจำปา คู่สมรส เป็นทรัพย์สินในประเทศ จำนวน 2 รายการ รวม 2,010,000 บาท และทรัพย์สินในต่างประเทศ จำนวน 4 รายการ รวม 225,383,103 บาท มูลค่ารวม 227,393,103 บาทตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
วันนี้ อัยการโจทก์ นายประหยัด จำเลย และทนายจําเลยมาศาล
เมื่อถึงเวลานัด ศาลฎีกาฯ อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วจำเลยยืนยันให้การปฏิเสธตามคำให้การฉบับลงวันที่ 30 เม.ย. 2564 พร้อมกับยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การของจำเลยภายใน 45 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง โดยศาลอนุญาตให้จำเลยแก้ไขคําให้การได้ภายใน 30 วันนับแต่วันนี้
ส่วนที่จำเลยยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 30 เม.ย. 2564 และฉบับลงวันที่ 19 ส.ค. 2564 ขอให้สั่งอนุญาตให้จำเลยปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำร้องของจำเลยทั้งสองฉบับยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะให้ศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 จึงให้ยกคำร้องทั้งสองฉบับของจำเลย
โดยศาลกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานคดีในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ทั้งนี้ เพื่อให้การตรวจพยานหลักฐานสะดวกรวดเร็วและคู่ความมีโอกาสตรวจสอบพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่งก่อน จึงให้คู่ความยื่นบัญชีระบุพยานส่งต้นฉบับพยานเอกสารและพยานวัตถุต่อศาลก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐานไม่น้อยกว่า 14 วัน เพื่อให้อีกฝ่ายตรวจสอบ
จากนั้นให้คู่ความยื่นคำแถลงแนวทางการเสนอพยานหลักฐานของฝ่ายตนและข้อโต้แย้งพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่งต่อศาลก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐานไม่น้อยกว่า 7 วัน หากพยานเอกสารหรือพยานวัตถุใดอยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอกให้คู่ความที่ประสงค์จะอ้างอิงขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกพยานหลักฐานดังกล่าวมาจากผู้ที่ครอบครอง โดยยื่นคำขอต่อศาลพร้อมกับการยื่นบัญชีระบุพยานเพื่อให้ได้พยานหลักฐานนั้นมาก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐานไม่น้อยกว่า 14 วันด้วย