เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ กกต. สอบ “บิ๊กตู่” เรียก 6 รมต.คุยปรับโครงสร้าง พปชร.ชี้ อาจเข้าข่ายชี้นำ ครอบงำ โทษถึงยุบพรรค
วันนี้ (27 ต.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทำการเข้าข่ายชี้นำ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ ว่า จากกรณีปรากฏข่าว เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า นายกรัฐมนตรีได้เรียก 6 รัฐมนตรีของพรรค พปชร.หารือเกี่ยวกับเรื่องภายในพรรค พปชร. แม้ว่าทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะออกมาแก้เกี้ยวว่า เป็นการหารือกิจการบ้านเมืองธรรมดาทั่วไป แต่เชื่อว่า สังคมไม่เชื่อ เพราะหลังการหารือดังกล่าวแล้วนำมาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในพรรค พปชร.มากมาย โดยเฉพาะการปรับรื้อโครงสร้างของพรรค และนัดประชุมกรรมการบริหารพรรค พปชร.เป็นการด่วนในวันที่ 28 ต.ค. ที่จะถึงนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกของพรรคการเมืองเข้าไปครอบงำ ชี้นำ กิจกรรมภายในพรรคการเมือง ซึ่งเป็นข้อห้ามตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28 และมาตรา 29 โดยเฉพาะมาตรา 28 ซึ่งมีบทลงโทษค่อนข้างจะหนัก อาจเกี่ยวพันกับมาตรา 92(3) ที่ กกต.สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคได้
“ก่อนหน้านั้น มีการประชุมคณะรัฐมนตรีกันอยู่แล้ว หากจะหารือในเรื่องกิจการบ้านเมืองที่เวลานี้มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ถ้าจะคุยเรื่องนี้ ก็จะต้องเชิญ รมว.สาธารณสุข แต่นี่พูดคุยกันเฉพาะ 6 รัฐมนตรีของพรรค พปชร. ฉะนั้น การโบ้ยเพื่อหาทางออกหรือหลบเลี่ยงไปแบบน้ำขุ่นๆ อย่างนี้ คิดว่าสังคมไทยไม่เชื่อ ว่า เป็นการหารือเฉพาะเรื่องกิจการบ้านเมือง ไม่เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ”
ดังนั้น ทางสมาคมฯจึงนำพยานหลักฐาน เอกสารที่เกี่ยวข้องมาร้องต่อ กกต.เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ให้เป็นบรรทัดฐานในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมือง และนักการเมืองต่อไปในอนาคต