“ชวน” ประสาน “วิษณุ” จี้ รมต.ตอบกระทู้ ในสภาฯ ระบุพรรครัฐบาลต้องคุมเสียงให้ได้ เตือน ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบ บอก อย่าโยนบาปให้วิปฯ เพราะเป็นแค่คนคุมเสียง
วันนี้ (10 พ.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีรัฐมนตรีเลื่อนการตอบกระทู้ ทำให้มีปัญหาเรื่องการตอบกระทู้ ว่า ต้องยอมรับว่า การตอบกระทู้ในสมัยนี้จะมากกว่าในสมัยก่อน ซึ่งตนได้แจ้งในที่ประชุมว่าอยากให้เป็นมาตรฐานไว้ ว่า ใครจะมาเป็นรัฐบาล หรือ ส.ส.ในภายภาคหน้า ต้องมีมาตรฐานความรับผิดชอบตอบกระทู้ถาม เพราะเราเคยมีประสบการณ์ที่ผ่านมาว่ารัฐมนตรีหนีกระทู้ เราจึงพยายามสร้างบรรทัดฐานขึ้นมา แต่ถ้าไปดูตัวเลขจะเห็นว่ามีการตอบกระทู้ถามในยุคสมัยนี้มากเป็นพิเศษ แต่บังเอิญการประชุมสภาฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีปัญหา เพราะเรานัดประชุมวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นข้อตกลงตั้งแต่แรกว่าวันพฤหัสบดีจะเป็นการตอบกระทู้ แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการประชุมในวันพฤหัสบดี เป็นนัดพิเศษ จึงทำให้รัฐมนตรีมาตอบกระทู้ได้เพียงท่านเดียว ซึ่งตนจึงได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่า ให้แจ้งรัฐบาลว่าวันพฤหัสบดี ทางสภาฯเขานัดล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องกันวันนี้ไว้ เพื่อที่รัฐมนตรีท่านใดจะได้รู้ว่าจะมาตอบกระทู้ยกเว้นกระทู้สดที่ถามตอนเช้า รัฐมนตรีจะไม่มีวันรู้ก่อนล่วงหน้าว่าสมาชิกจะถามเรื่องอะไร บังเอิญรัฐมนตรีท่านนั้นไม่รู้หรือไม่ทราบเรื่องมาก่อน ก็อาจจะไม่อยู่และไม่พร้อม ก็เป็นไปได้ตามปกติแต่โดยทั่วไปเขาก็มาตอบกระทู้
นายชวน ยังกล่าวถึงเรื่ององค์ประชุมที่อาจจะมีปัญหานั้น ว่า เกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ในการประชุมระดับรัฐสภาไม่มีครั้งไหนที่องค์ประชุมไม่ครบ มีเพียงการประชุมร่วมครั้งสุดท้ายสมัยที่แล้วที่พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งยังไม่มีการลงมติแต่แนวโน้มองค์ประชุมจะไม่ครบ เพราไม่มีใครรู้ว่าการอภิปรายจะจบเมื่อไหร่ เนื่องจากมีผู้อภิปราย 70 กว่าคนถือว่ามากเป็นประวัติศาสตร์ จึงทำให้มีปัญหาขึ้นมา และเมื่อดูแล้วคนในห้องก็ไม่อยากกดบัตรแสดงตนประชุม เพราะเขาไม่อยากประชุม ตนจึงสั่งปิดประชุมไป และมาลงมติเมื่อการประชุมร่วมเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรก็มีปัญหาแต่ไม่มากเกินไป จะมีในลักษณะถ้ามีการอภิปรายยึดเยื้อและมีทีท่าว่าสมาชิกจะอยู่ไม่ครบ จึงได้มาตกลงเมื่อการประชุมร่วม3 ฝ่ายว่า ให้จัดสัดส่วนการอภิปรายตามจำนวน ส.ส. เช่น พรรคเพื่อไทยมีเสียงมากก็มีสิทธิอภิปรายมาก ซึ่งในอดีตก็มีการทำแบบนี้แต่ช่วงหลังเปิดโอกาสให้ทุกคน แต่ก็เป็นหน้าที่ของเขาต้องอภิปราย เพราะสภาฯเป็นที่อภิปราย แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะพูดได้ทุกเรื่องจนกินเวลาคนอื่น เพราะเวลามีค่าซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายในหมู่สมาชิกส่วนนหึ่งที่มาเล่าให้ฟัง ตนจึงได้บอกไปว่าถ้าอย่างนั้นจะมาหารือกันว่าในการอภิปรายกฎหมายแต่ละฉบับควรกำหนดเวลา แต่เรื่องนี้เคยมีการประสานกันไว้แล้วในสมัยประชุมก่อนๆ ว่า แต่ละเรื่องไม่ควรเกินกี่ชั่วโมง เช่น เวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือร่างพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี
“ดังนั้น เรื่ององค์ประชุมโดยหลักแล้วทุกคนต้องร่วมมือกัน แต่ในระบบนี้ซึ่งผมพูดมาตลอดไม่ว่าเป็น ส.ส.มากี่สมัยก็เป็นหน้าที่ของ ส.ส. แต่ในระบบนี้รัฐบาลอยู่ได้ด้วยเสียงข้างมาก เพราะถ้าไม่ใช่เสียงข้างมากก็เป็นรัฐบาลไม่ได้ ฉะนั้นรัฐบาลต้องเป็นหลักมีหน้าที่รักษาองค์ประชุม ส.ส.รัฐบาลก็จะมีน้ำหนักพิเศษกว่า ส.ส.ทั่วไป ถือว่าเป็นภารกิจจะต้องทำและอย่าไปโยนให้วิป เพราะวิปเป็นเพียงผู้ควบคุมเสียง ไม่ใช่คนที่จะบอกว่าให้คะแนนครบหรือไม่ครบ ดังนั้น เสียงจะครบหรือไม่อยู่ที่สมาชิกรับผิดชอบและพรรคการเมืองต้องดูแลคนของตนเอง รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ผมก็เตือนว่าเป็นรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบต่อเสียงไม่ใช่ขาดประชุมแล้วไปโยนให้คนอื่น มันไม่ได้” นายชวน กล่าว