MGR Online - รองฯ จิ เผย ต้นสังกัดอยู่ระหว่างตรวจสอบ กรณี รอง สว.จราจร สน.ทองหล่อ ปรากฏในคลิปขับ จยย.นำขบวนเบนซ์ บนถนนกำแพงเพชร 7 เตรียมเรียก “หมอบุญ” คนนั่ง และผู้เกี่ยวข้องให้ข้อมูล ขีดเส้นภายใน 3 วัน รู้ผลสอบ ฟันทั้งกฎหมาย วินัย น้อมรับพลาดเรื่องตั้งเครื่องหมายป้าย กำชับทุกพื้นที่บริหารจราจร รับมือภาวะปกติ ยัน ดำเนินการตามกฎหมายแม้ตำรวจผิด
วันนี้ (5 พ.ย.) เวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิปในโซเชียลมีตำรวจขับรถจักรยานยนต์ นำรถเบนซ์คันหนึ่งเพื่ออำนวยความสะดวก แล้วให้สัญญาณมือรถที่สวนเลนหลีกทาง บนถนนกำแพงเพชร 7 พื้นที่ สน.มักกะสัน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ว่า ได้สั่งการ บก.น.5 และ สน.ทองหล่อ ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยให้รายงานผลภายใน 3 วัน เพื่อพิจารณาความผิดทั้งทางกฎหมายและทางวินัย
เบื้องต้นไม่พบการกระทำผิดทางกฎหมาย ส่วนความผิดทางวินัยต้องไปตรวจสอบ ว่า เหตุใดจึงไปนำขบวนและมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่ หลังจากนี้ อาจเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล อาทิ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป เจ้าของ รพ.ธนบุรี ที่ยอมรับว่า เป็นผู้อยู่ในรถเบนซ์ พ.ต.ต.ตำแหน่ง สว.จร.สน.ทองหล่อ ผู้ทำหน้าที่ขับนำ ตำรวจจราจร สน.มักกะสัน ที่ได้รับการประสานให้อำนวยความสะดวก และผู้ประสาน ทั้งสองมีความสัมพันธ์ส่วนตัวอย่างไรต้องรอผลสอบอีกที ยืนยัน บช.น.ให้ความเป็นกับทุกฝ่าย คลิปที่ปรากฏจะนำมาประกอบเป็นพยานหลักฐานด้วยส่วนหนึ่ง
สำหรับการนำขบวนมีผลกับการแต่งตั้งโยกย้ายของตำรวจนายดังกล่าวหรือไม่ ในการบริหารงานด้านบุคคลเป็นอำนาจของ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอยู่แล้ว เรื่องความดีความชอบ หรือการกระทำผิดวินัยมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายแน่นอน เป็นไปได้ว่ากรณีดังกล่าวอาจเป็นส่วนหนึ่งในการกระทำผิด จำเป็นต้องนำข้อมูลการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมาพิจารณาด้วยหรือไม่ ต้องดูว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอย่างไรและจำเป็นมากน้อยแค่ไหน
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า ในฐานะที่ตนรับผิดชอบงานด้านการจราจร มองว่า 1. เรื่องการจัดระบบการจราจรของ สน.มักกะสัน เป็นระบบเดินรถทางเดียว (วันเวย์) ตามปกติ แต่ตำรวจอาจผิดพลาดเรื่องการตั้งเครื่องหมายป้ายจราจร บช.น.น้อมรับความบกพร่องตรงนี้ และพยายามแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก 2. เรื่องรถนำขบวนพิจารณาตามระเบียบข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ชัดเจน อาทิ เหตุจำเป็น ฉุกเฉิน อุบัติเหตุ หรือแก้ไขปัญหาการจราจรตำรวจสามารถปฏิบัติได้ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นเรื่องการนำหัวใจ หรืออวัยวะสำคัญส่งโรงพยาบาลจึงขอทางเพื่อให้ทันเวลา
“อะไรที่เป็นความผิด บช.น.ยืนยันว่า จะปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายแม้ผู้กระทำผิดจะเป็นตำรวจก็ตาม อย่างไรก็ตาม การดำเนินการใดๆ ต้องให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย จึงมีการตรวจสอบ รายงานข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อพิจารณาให้รอบคอบ แต่การเร่งรัดและสรุปตัดสินใจก็อาจเกิดความผิดพลาดได้ รอเวลารวบรวมพยานหลักฐานให้ครอบคลุมทุกฝ่าย ให้การตัดสินใจมีความถูกต้องและเป็นธรรมมากที่สุด” น.2 กล่าว
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า กรณีการบริหารจัดการจราจรในภาพรวมหลังจำนวนรถมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ก่อนวันที่ 1 พ.ย. ได้ประชุมกำชับการปฏิบัติทุกพื้นที่ เพื่อเตรียมการรับรอบสภาพการจราจรที่เข้าสู่ภาวะปกติ โดยสั่งการให้จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องหมายต่างๆ ได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ยังมีเหตุการณ์ สน.มักกะสัน จึงย้ำเตือนให้ทุกฝ่ายตรวจสอบอย่าให้เกิดข้อผิดพลาดอีก มีหลายพื้นที่เริ่มจัดระบบเดินรถวันเวย์ โดยให้เจ้าพนักงานในพื้นที่มีอำนาจการตัดสินใจ เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์การจราจรที่เป็นปัจจุบันมากที่สุด.
