ศูนย์ข่าวขอนแก่น - หลังบุคลากรทางการแพทย์ รพ.ขอนแก่นร้อง สสจ.ตรวจสอบพฤติกรรมบริหารงานมิชอบของ “หมอเกรียงศักดิ์” ผอ.โรงพยาบาล ล่าสุดเครือข่ายผู้ป่วยฯ บี้ซ้ำส่งหนังสือถึงปลัดกระทรวงเรียกร้องให้สั่งย้ายหมอเกรียงศักดิ์เข้ากรุเหมือนข้าราชการคนอื่นๆ ที่ถูกร้องแล้วกำลังถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบ หากปลัดกระทรวงยังเพิกเฉยภาคประชาชนจะแจ้งความเอาผิด ม.157
เรื่องวุ่นๆ ในโรงพยาบาลขอนแก่นยังคงเป็นข่าวให้เห็นต่อเนื่องในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา ทุกปมปัญหาที่บุคคลากรทางการแพทย์ภายในสถานพยาบาลใหญ่แห่งนี้เคลื่อนไหวล้วนเกี่ยวโยงกับ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่นทั้งนั้น ล่าสุดวานนี้ (3 พ.ย.) ก็ได้เป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อ พญ.จรรยาภรณ์ รัตน์โกศล ประธานคณะกรรมการควบคุมภายในรับแจ้งเรื่องศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รพ.ขอนแก่น พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ ได้พากันเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์ สสจ.ขอนแก่น เพื่อให้ตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารงานของ นพ.เกรียงศักดิ์ โดยเฉพาะกรณีการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ที่ส่อไปในทางมิชอบ รวมถึงอีกหลายประเด็นปัญหา
ขณะเดียวกันยังมีรายงานอีกว่า ไม่เพียงแต่หมอ-พยาบาล และบุคลากรภายใน รพ.ขอนแก่นเท่านั้นที่เคลือบแคลงสงสัยในการบริหารงานของ นพ.เกรียงศักดิ์ ภาคประชาสังคมจังหวัดขอนแก่น เครือข่ายผู้ป่วยจังหวัดขอนแก่น ฯลฯ เองก็เคลื่อนไหวไม่วางใจ ผอ.รพ.ขอนแก่นรายเดียวกันนี้เช่นกัน โดยส่งหนังสือถึง นพ.เกียรติภูมิ วงรจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอคำชี้แจงกรณี นพ.เกรียงศักดิ์ถูกร้องเรียนพฤติกรรม
โดยนายภัตธนสันต์ เสงี่ยมศรี ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ป่วยจังหวัดขอนแก่น ระบุถึงเหตุผลที่ต้องทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงฯ เนื่องจากภาคประชาสังคมข้องใจเป็นอย่างมากว่า ทั้งที่ตัว นพ.เกรียงศักดิ์มีเรื่องร้องเรียนเรื่องทุจริตอยู่ ทำไมถึงได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายให้มานั่งบริหารงานในโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่าง รพ.ขอนแก่น
ดังกรณีที่ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อํานวยการองค์การเภสัชกรรม ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ร้องเรียนพฤติกรรมของ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะทํางานกําหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทําผิดต่อพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กรณีการจัดหาชุดตรวจสําหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits จํานวน 8,500,000 ชุด และมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมอีกด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 แต่กลับปรากฏว่าปลัดกระทรวงสาธารณสุขไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ถูกร้องเรียน ป.ป.ช. และไม่มีคำสั่งย้ายเข้าประจำกระทรวงดังผู้ถูกกล่าวหาอื่นๆ ที่เคยปฏิบัติมา แต่กลับมีคำสั่งกระทรวงให้นายแพทย์ เกรียงศักดิ์ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าบุคลากรในโรงพยาบาลขอนแก่นและประชาชนจังหวัดขอนแก่นไม่มีความประสงค์ให้นายแพทย์ เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ มาดำรงตำแหน่งจนมีการประท้วงขับไล่ถึง 2 ครั้ง การที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งดังกล่าว ถือว่าไม่ให้ความสำคัญต่อพี่น้องประชาชนจังหวัดขอนแก่น และเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
ประเด็นต่อมา กระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งให้นายแพทย์ เกรียงศักดิ์มาปฏิบัติราชการในตำแหน่งรักษาการ ผอ.รพ.ขอนแก่น ในวันที่ 5 มิ.ย. 2563 จนเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งวุ่นวายทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาลขอนแก่น ทำให้นายแพทย์ เกรียงศักดิ์ต้องเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนจากกรณีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ รพ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. 2563 ที่ห้องประชุมแก่นเพชร ชั้น 4 รพ.ขอนแก่น เรื่องขอถอนตัวจากการรักษาการในตำแหน่ง ผอ.รพ.ขอนแก่น การแถลงข่าวดังกล่าวถือเป็นการขัดขืนคำสั่งผู้บังคับบัญชา
จนเป็นที่สงสัยว่าเหตุใดนายแพทย์ เกรียงศักดิ์อยากจะอยู่หรือไปที่ไหนได้ตามแต่ตนเองต้องการ โดยที่ผู้บังคับบัญชายอมเซ็นคำสั่งย้ายให้ หรือนายแพทย์ เกรียงศักดิ์มีตำแหน่งใหญ่กว่าปลัดกระทรวง แสดงตัวเหมือนเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือกระทรวงฯ พฤติกรรมดังกล่าวจะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติให้ข้าราชการคนอื่นทำตามได้หรือไม่
เหตุใดปลัดกระทรวงสาธารณสุขถึงไม่มีการตั้งกรรมการสอบความผิดทางวินัยฐานขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ทั้งๆ ที่ความผิดสำเร็จไปแล้ว กลับปล่อยให้เรื่องเงียบไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
ดังนั้น ทางภาคประชาสังคมขอนแก่น เครือข่ายผู้ป่วยขอนแก่น จึงขอเรียกร้องให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยเร็ว และขอให้มีคำสั่งย้ายนายแพทย์ เกรียงศักดิ์ เข้าส่วนกลางเหมือนข้าราชการคนอื่นๆ ตามที่เคยปฏิบัติมา
หากไม่มีการดำเนินการใดๆ พี่น้องประชาชน เครือข่ายผู้ป่วย ภาคประชาสังคม จะมีการกล่าวโทษร้องทุกข์ท่านตามมาตรา 157 และจะมีมาตรการเคลื่อนไหวต่อไป