จับคู่รักค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ซุกซองบะหมี่ตบตาเจ้าหน้าที่ฮ่องกง

MGR Online - เลขาฯ ป.ป.ส. เผย หน่วยปราบยาเสพติดระหว่างท่าเรือสากลของอาเซียน ตามรวบ 2 ผู้ต้องหาค้าเฮโรอีนส่งฮ่องกง ยึดของกลางเพียบ เร่งขยายผลผู้สั่งการ

วันนี้ (19 ต.ค.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีสำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรฮ่องกง ว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ศุลกากรฮ่องกง ได้ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักประมาณ 61 กิโลกรัม ซุกซ่อนในซองเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง พร้อมจับกุมผู้ต้องหาชาวฮ่องกงจำนวน 3 ราย จากนั้น หน่วยปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าเรือสากลของอาเซียน หรือ Seaport Interdiction Task Force (SITF) ประกอบด้วย ป.ป.ส., บช.ปส., ศุลกากร ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) สืบสวนและตรวจสอบพบว่า สินค้าจัดส่งจากประเทศไทย โดยผู้ส่งคือ นายอลิจันโด ครูส (MR.ALIJANDRO CRUZ) อายุ 30 ปี สัญชาติจีน-ฮ่องกง ร่วมกับ น.ส.ทิวา ตรีนพ อายุ 32 ปี แฟนสาว นายอลิจันโด และ นายชัว ยิค แลม  (MR.CHUA YIK LAM) สัญชาติจีน-ฮ่องกง (เพื่อนของนายอลิจันโด) ช่วยกันแพ็กและขนสินค้าดังกล่าวไปส่งที่บริษัทขนส่ง

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ต่อมา เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ 1. นายอลิจันโด ครูส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 675 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2564 และ 2. น.ส.ทิวา ตรีนพ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 677 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ณ บ้านพักเลขที่ 55/18 ม.2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 1 ถุงเล็ก และทรัพย์สินอื่นๆ อาทิ รถยนต์เก๋งฮอนด้า รุ่น ซิตี้, รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า, รถยนต์ มิตซูบิชิ รุ่น ไทรทัน, บัญชีธนาคารจำนวนหนึ่ง, นาฬิกาข้อมือ Rolex จำนวน 1 เรือน และ ทองรูปพรรณ จำนวนหนึ่ง รวมทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 2 ล้านบาท ส่วน นายชัว ยิค แลม ขณะเข้าจับกุม เดินทางออกนอกประเทศแล้ว

“การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ครั้งนี้ เป็นการจับกุมตามหมายจับ ความผิดในฐานสมคบกันกระทำความผิดในคดียาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2564 มาตรา 8 และ “ร่วมกันมีส่วนร่วมในอาชญากรรมข้ามชาติ (มีพฤติการณ์ลักลอบส่งยาเสพติดไปต่างประเทศ)” หลังจากนี้ จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน และของกลางทั้งหมด เข้าไปทำบันทึกตรวจยึดทรัพย์สิน บันทึกจับกุม และส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ต่อไป” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว