MGR Online -“บิ๊กราญ” นำทัพนครบาลแถลง 191 - กองสืบ โชว์จับผู้ต้องหาหญิง 1 ราย เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่เพชรบูรณ์ พร้อมยึด ยาบ้า เฉียด 1 ล้านเม็ด ยาอี เกือบ 2 แสนเม็ด เฮโรอีน 30 กว่ากิโล ไอซ์ 3 กิโล มูลค่า 157,900,000 บาท มีผู้ร่วมขบวนการ 5 คน ใช้รถกระบะตู้ทึบบรรทุกยา มีรถกระบะอีกคันนำทางลำเลียงจากชายแดน จ.มุกดาหาร ติดประเทศเพื่อนบ้าน ปลายทาง จ.สุพรรณบุรี ได้ค่าจ้าง 1 แสน
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ.และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น.แถลงข่าว พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.ตำรวจ บก.สปพ. และ บก.สส.บช.น.จับกุม น.ส.อังควิภา (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 962,000 เม็ด ยาอี 195,950 เม็ด เฮโรอีน (ตราสิงโตคู่เหยียบโลก) 104 แท่ง น้ำหนัก 38 กก. ไอซ์ 3 กก. รถยนต์กระบะ 2 คัน รวมมูลค่า 157,900,000 บาท ได้ภายในหมู่บ้านหน้าวัดซับตะกั่ว หมู่ 1 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี, ภายในไร่อ้อย หมู่ 5 ต.น้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ และหน้าบ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 5 ต.น้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า สืบเนื่องจาก กก.สายตรวจ บก.สปพ.และ กก.สส.2 บก.สส.บช.น.ร่วมกันขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง จากการสืบสวนใช้เวลา 1 เดือน ทราบว่า มีเครือข่ายที่ จ.เพชรบูรณ์ ลักลอบลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวตะเข็บชายแดน จ.มุกดาหาร เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าในภาคกลาง โดยใช้รถกระบะตู้ทึบบรรทุกยาเสพติด และมีรถกระบะอีก 1 คัน ทำหน้าที่ขับนำเพื่อตรวจสอบเส้นทางเลี่ยงด่านตำรวจให้รอดพ้นการจับกุม คาดว่ามีผู้ร่วมขบวนการ 5 คน จึงเฝ้าติดตามสะกดรอยจนถึง จ.นครราชสีมา น.ส.อังคาวิภา ที่นั่งมากับรถนำเริ่มสังเกตเห็นมีรถขับตามมา จึงบอกให้หลบหนีแล้วนำรถกระบะตู้ทึบไปจอดไว้ที่หมู่บ้านหน้าวัดซับตะกั่ว หมู่ 1 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี บางส่วนไปกับรถนำทางเมื่อเข้าพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นภายในไร่อ้อย หมู่ 5 ต.น้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ สามารถจับกุม น.ส.อังควิภา
จากการสอบสวนและตรวจสอบทราบว่า ของกลางยาอีเป็นแบบชนิดใหม่ไม่มีผงหลุดร่อนจากการควบแน่นถือว่ามีคุณภาพ คาดว่า ยาอีลอตดังกล่าวมาจากต่างประเทศไม่ใช่ประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นส่งให้ประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำเข้าประเทศไทย โดยผ่าน จ.นครราชสีมา จ.สระบุรี จ.ลพบุรี จ.อยุธยา จ.อ่างทอง มีปลายทางที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เพื่อรอคำสั่งอีกทีว่าให้นำไปเก็บ หรือไปส่งที่ไหน ขณะนี้ตำรวจรู้ตัวการใหญ่แล้ว น.ส.อังควิภา ทำมาทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งนี้ได้ค่าจ้าง 100,000 บาท แบ่งกันแล้ว น.ส.อังควิภา ได้ 20,000 บาท ตัวผู้ต้องหาหญิงมีประสบการณ์พอสมควร เพราะรู้ว่ามีตำรวจขับรถตาม ส่วนรถกระบะตู้ทึบที่นำมาใช้บรรทุกยาเสพติดต้องเป็นรถที่พร้อมทิ้ง จะนำมาดัดแปลงใหม่เพื่อใช้งานโดยเฉพาะพอถูกจับกุมจะได้ไม่ขาดทุน
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า สาเหตุที่ตำรวจ บช.น.ออกไปจับผู้ต้องหาที่ต่างจังหวัดเพราะเป็นจุดพักของ และต้องการสกัดยาเสพติดไม่ให้เข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อให้ชุมนุมในกรุงเทพฯ ปลอดจากยาเสพติด ฝากถึงประชาชนที่มีบุตรหลานเสพยาเสพติด หรือการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้แจ้งมาที่ 191 บช.น.จะเข้าปิดล้อมตรวจค้น เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, เฮโรอีน, ยาอี, ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมตรวจยึดรถยนต์กระบะ 1 คัน มูลค่าประมาณ 500,000 บาท ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ และขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป.
