ญาติน้ำตาซึม ขอเงินเยียวยาไม่ได้ หลังตาล้วนไปฉีดวัคซีนเข็มแรก astrazeneca กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้เพียงไม่กี่วัน ปรากฏว่า เป็นอัมพาตเดินไม่ได้ มีเพื่อนบ้านเป็นพยานยืนยันก่อนฉีดยังเดินไปไหนมาไหนได้ แต่ทาง สปสช. อ้างตาล้วนป่วยติดเตียงมาก่อนที่จะไปฉีดวัคซีน ไม่เข้าเงื่อนไขขอรับการเยียวยา
จากกรณี นายล้วน เขียวฟัก ชาวนาวัย 84 ปี พักอยู่หมู่ 10 ตำบลหนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางไปฉีดวัคซีน astrazeneca เข็มแรกที่วัดไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี หลังกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้เพียงไม่กี่วัน ปรากฏว่า คุณตาล้วน กลับล้มป่วยเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนที่จะไปฉีดวัคซีน คุณตาล้วนเองอยู่บ้านเดินไปไหนมาไหนไป หาเพื่อนบ้านได้เป็นปกติ กระทั่งล่าสุด นางสาวสมใจ และ นางสาวกัญญาณัฐ ลูกสาวและหลานสาว ของคุณตาล้วน ทำเรื่องพร้อมแนบเอกสารหลักฐานไปที่ สสจ.นนทบุรี เพื่อขอรับการเยียวยาช่วยเหลือครอบครัว ต่อมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางครอบครัวของคุณตาล้วนได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 4 จังหวัดสระบุรี ว่า คุณตาล้วน ไม่ผ่านการพิจารณาที่จะได้รับการเยียวยา เนื่องจากคณะกรรมการเห็นว่า คุณตาล้วนน่าจะป่วยติดเตียงมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ก่อนที่จะไปฉีดวัคซีน ทั้งนี้ หลังได้รับคำตอบดังกล่าว ปรากฏว่า ทางครอบครัวของคุณตาล้วน ถึงกับน้ำตาซึม ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบ ที่ไร้ความเป็นธรรมขนาดนี้ เนื่องจากคุณพ่อและคุณตาของเธอสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีก่อนไปฉีดวัคซีนมีเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เป็นพยานยืนยันได้
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านพักของนายล้วน เขียวฟัก พบว่า คุณตานอนติดเตียงในสภาพผ่ายผอม หนังหุ้มกระดูก แต่ยังพูดคุยได้บ้าง มีชาวบ้านเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจที่บ้านกันหลายคนโดยทุกคนต่างเชื่อว่าคุณตาล้วนนอนติดเตียง เพราะมาจากผลข้างเคียงที่แพ้วัคซีนมาอย่างแน่นอน แต่ทำไมไม่ได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ
นายวิโรจน์ พ่วงแพ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 เปิดเผยว่า คุณตาล้วนผู้ป่วยรายนี้ก่อนฉีดวัคซีน มีอาการปกติตามประสาคนแก่หลังจากฉีดมาแล้วอาการแกเหมือนคนป่วยทีแรกลูกหลานคิดว่าป่วยตามประสาคนสูงอายุ ไม่คิดว่าจะมีผลข้างเคียงมาจากวัคซีนปกติชาวบ้านทั่วไปไม่รู้หรอกว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไรบ้างเพราะแกอายุเยอะแล้ว ก็ไม่ได้สนใจอะไรกันมากมาย ตอนที่แกไปฉีดวัคซีนแกยังเดินไปฉีดวัคซีนด้วยตัวเองในสนามฉีดวัคซีนเลย แต่สภาพปัจจุบันทุกวันนี้ไม่เหมือนเดิมเลยถ้าถามว่าวันนั้นนอนอย่างนี้ใครจะอุ้มไปฉีดเหรอครับตอนที่ไปฉีดยืนยันว่าร่างกายของคุณลุงสมบูรณ์ คุณลุงไม่ได้นั่งรถเข็นอะไรเลย แม้แต่ที่บ้านแกก็ไม่มีรถเข็นให้เห็นสักคัน แกปกติเป็นคนที่ชอบเดินออกกำลังหน้าบ้านไปหาเพื่อนบ้านประจำ
นางสุดใจ พันทอง อายุ 51 ปี อสม. ประจำหมู่บ้าน เผยว่า ตนเองเป็นคนมาชักชวนให้คุณลุงไปฉีด ทั้งๆ ที่ลูกสาวไม่อยากให้ฉีดแต่คุณลุงอยากฉีดคุณลุงไม่ได้ป่วยติดเตียงมาก่อนยืนยันว่าคุณลุงเดินได้วันที่ไปฉีดวัคซีนหลานก็เป็นคนพาคุณลุงไป ตนเป็น อสม. ยืนยันว่าคุณลุงเดินได้อยู่ตามปกติตอนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน แต่พอคุณลุงฉีดแล้วตนเองก็มาดูก็พบว่าคุณลุงเดินไม่ได้แล้วจริงๆ
นางจำรัส เพื่อนบ้านใกล้กัน กล่าวว่า ยืนยันคุณตาก่อนไปฉีดวัคซีนแกเดินได้ปกติเลย มาทราบว่า แกเดินไม่ได้หลังไปฉีดวัคซีนมา ก็เดินทางมาเยี่ยมเห็นลุงแกผอมผิดไปเป็นคนละคนเลยกับก่อนฉีดวัคซีน รู้สึกสงสารแกมากจริงๆ ยืนยันว่า แกเดินได้แข็งแรงก่อนไปฉีดวัคซีน
นางสาวกัญญาณัฐ อายุ 38 ปี หลานสาวคุณตาล้วน เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่โทร.มาบอกว่าผลการพิจารณาแล้วคุณตาไม่ผ่าน ดูจากรูปถ่ายแล้วคุณตาติดเตียงมาก่อน ก่อนที่จะไปฉีดวัคซีน ทางเจ้าหน้าที่จึงบอกให้เราสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ แต่ให้เราไปหาหลักฐานมายื่นใหม่ เจ้าหน้าที่บอกว่าคณะอนุกรรมการพิจารณาดูจากรูปแล้วน่าจะติดเตียงมา 3 เดือนแล้วไม่ใช่เดือนเดียว หลังจากที่ฉีดวัคซีน ปกติคุณตาก่อนฉีดเดินได้ตามปกติตอนเช้าเดินไปร้านค้าออกกำลังกายได้เหมือนทุกวัน พอฉีดเสร็จกลับมาแล้วก็มีอาการท้องเสียแล้วก็ร่างกายผ่ายผอม คิดมากจนทุกวันนี้เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ตอนนั้นที่ฉีดวัคซีนก็พักดูอาการ 30 นาที เราเองก็ถ่ายรูปไว้ตอนที่คุณตาเดินเข้าไปฉีดแล้วมานั่งพักผ่อนก่อนฉีดวัคซีน ตนเป็นหลานขอยืนยัน และพูดความจริง ว่า ตาไม่ได้ติดเตียงเลยวันที่ไปฉีดวัคซีน เพราะตนเป็นคนพาไปเองและถึงสนามฉีดวัคซีนคุณตาก็เดินเข้าไปเองโดยไม่ต้องมีใครพยุงในวันนั้น
ทางด้าน นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง กล่าวว่า ตามประกาศของ สปสช. กรณีที่ว่าผู้ร้องไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการที่พิจารณาก็มีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์กับเลขาธิการ สปสช. ภายในกำหนด 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ทราบคำสั่ง เบื้องต้นที่สอบถามจากทางผู้ร้องเอง ซึ่งได้รับแจ้งจากโทรศัพท์ทราบว่า ข้อมูลจากคณะอนุกรรมการพิจารณา ทราบว่า คุณตาล้วน น่าจะติดเตียงมาก่อนที่จะไปรับวัคซีน จากการที่ตนลงพื้นที่สอบถามในวันนี้ ทั้งผู้ใหญ่บ้าน อสม. เพื่อนบ้านทุกคน ต่างก็ยืนยันว่า คุณตาล้วนสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ อย่างผู้ใหญ่บ้าน บ้านห่างไปหลายกิโล คุณตาเองยังสามารถเดินไปซื้อของเองได้ เพราะบ้านผู้ใหญ่บ้านเป็นร้านขายของชำ คุณตายังเดินไปซื้อของเอง ผู้ใหญ่บ้านก็ยืนยันว่า คุณตาเดินเหินได้ปกติ ประกอบกับทางลูกหลานได้นำภาพถ่ายวันที่คุณตาได้รับวัคซีนในวันนั้นที่หน่วยบริการรับวัคซีน สนามฉีดวัคซีนไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย ก็มีรูปถ่ายที่คุณตานั่งเป็นปกติ ทั้งบุตร/หลาน ก็ยืนยันว่า วันที่พาคุณตาไป หลานอยากให้นั่งรถวีลแชร์ไป แกยังไม่นั่งเลย แกต้องการเดินไปเอง แล้วก็เดินเข้าไปในสนามฉีด อันนี้เป็นข้อมูลหลักฐาน เรามีทั้งภาพถ่ายพยานเอกสาร พยานบุคคล ที่พร้อมจะยื่นอุทธรณ์กับเลขาธิการ สปสช. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฝากคณะอนุกรรมการทุกๆ คณะอนุกรรมการในการพิจารณา ก่อนที่ท่านจะลงความเห็นอย่างหนึ่งอย่างใด ถ้าขาดเอกสารหลักฐานใดๆ หรือท่านติดใจกรุณาสอบถามจากทางผู้ร้องก่อนว่า คณะอนุกรรมการยังติดใจในเรื่องนี้ อย่างกรณีเช่นนี้ คณะกรรมการน่าจะสอบถามจากทางผู้ร้องก่อนว่ามีหลักฐานเพิ่มเติมไหมว่าคุณตาล้วนไม่ได้นอนติดเตียงมาก่อน ก่อนที่จะไปรับวัคซีน ทางบุตรหลานจะได้นำหลักฐานไปยื่นประกอบให้ถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อเป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการ ไม่ใช่ท่านมาวินิจฉัยแบบนี้ ความเสียหายความเดือดร้อนก็จะตกอยู่กับประชาชน ประชาชนกว่าเขาจะเดินทางไปรับวัคซีน มีผลกระทบกับเขาแล้ว และกว่าเขาจะไปร้องขอเงินเยียวยาเบื้องต้นจาก สสจ.จังหวัด ก็มีความลำบากมากพออยู่แล้ว ท่านยังมาวินิจฉัยแบบนี้อีก มันเหมือนกับสร้างความลำบากให้กับประชาชน กรุณาช่วยหน่อย ถ้าประชาชนเขาขาดหลักฐานอะไร กรุณาเรียกหลักฐานจากเขาเพื่อให้เขาส่งหลักฐานให้ท่านวินิจฉัย ให้ถูกต้อง อย่าทำแบบนี้กับรายอื่นต่อไป เพราะมันจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ฝากไว้ด้วยนะครับด้วยความเคารพจริงๆ