ตา-ยาย บ้านใกล้กันฉีดวัคซีนที่เดียวกันสุดท้ายเป็นอัมพาตทั้งคู่

ญาติร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเยียวยา คุณตาวัย 84 ปี กับ คุณยาย วัย 74 ปี ฉีดวัคซีนเข็มแรกเพียงไม่กี่วัน ล้มป่วยเป็นอัมพาต ไม่สามารถเดินเหินได้เหมือนแต่ก่อน

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 กันยายน 2564 นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 6 หมู่ 10 ตำบลหนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี หลังได้รับร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้ช่วยเหลือ จากนางสาวสมใจ พิมพ์ดี อายุ 58 ปี กรณีคุณพ่อ คือ นายล้วน เขียวฟัก อายุ 84 ปี ฉีดวัคซีนเข็มแรก แล้วล้มป่วยเป็นอัมพาต ไม่สามารถเดินเหินได้เหมือนแต่ก่อน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ นายล้วน สามารถลุกเหินเดินคล่องได้เอง

นางสาวสมใจ กล่าวว่า คุณพ่อไปฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่สนามฉีดวัคซีนวัดไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี หลังจากนั้นมาเพียงไม่กี่วัน ก็ไม่สามารถเดินได้ กลายเป็นอัมพาตติดเตียงทันที เรื่องที่เกิดขึ้นตนและครอบครัวรู้สึกเสียใจ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบดูแลแก้ไขในเรื่องนี้ อยากให้เข้ามาเยียวยาช่วยเหลือ ตอนนี้ยังมีคุณยายอายุ 74 ปี ที่อยู่บ้านห่างกันแค่ 4 หลัง ก็มีสภาพเหมือนคุณพ่อ โดยก่อนหน้านี้ คุณยายสามารถเดินเหินลุกเดินรับจ้างเก็บดอกรักไปขาย เมื่อไปฉีดวัคซีนที่สนามฉีดวัคซีนเดียวกันกับคุณพ่อ กลับมาถึงบ้านเพียงไม่กี่สัปดาห์ ก็ไม่สามารถลุกเหินเดินได้กลายเป็นอัมพาตเหมือนคุณพ่อของตนเอง จึงอยากขอความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตนเองด้วย

ต่อมา นายเกียรติคุณ หรือ ทนายโป้ง ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 4 ตำบลหนองเพรางาย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของนายล้วน เพียง 4 หลัง พบ นางสาวทอง ใบดาวลอย อายุ 76 ปี ในสภาพนอนติดเตียง ไม่สามารถลุกเหินเดินขึ้นมาช่วยเหลือตัวเองได้ สอบถาม นางสาวบาง ดาวลอย อายุ 73 ปี ผู้เป็นน้องสาว เปิดเผยว่า พี่สาวตนเองได้ไปฉีดวัคซีน astrazeneca เหมือนกับนายล้วน ที่สนามฉีดวัคซีนวัดไทรใหญ่ โดย นายล้วน ฉีดเมื่อ 30 กรกฎาคม 64 ส่วนพี่สาวตนเองฉีดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 64 หลังฉีดวัคซีนได้ไม่กี่วัน ก็พบว่าพี่สาวตนเองไม่มีเรี่ยวแรง โดยเฉพาะขาทั้งสองข้าง ทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นมาเดินได้เหมือนแต่ก่อน ทั้งที่ก่อนฉีดวัคซีนพี่สาวตนเองเป็นคนที่แข็งแรง รับจ้างเก็บดอกรัก ทำงานได้ตามปกติทุกวัน แต่พอฉีดวัคซีนแล้ว ปรากฏว่า กลับกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตนเองต้องคอยดูแลพี่สาวอย่างใกล้ชิด เรื่องที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าต้องมาจากการแพ้วัคซีนอย่างแน่นอน จึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบดูแลแก้ไขในเรื่องนี้ด้วย เพราะพวกตนเป็นแค่ชาวสวนชาวนาไม่มีความรู้ที่จะไปสอบถามหรือร้องเรียนกับหน่วยงานใดๆ

ทางด้าน นายเกียรติคุณ หรือ ทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับการร้องเรียนจากทางโทรศัพท์ โดยลูกคุณตาล้วน และน้องสาวคุณยายทองใบ โทร.ไปแจ้งว่า สงสัยว่าหรือติดใจว่าเขานอนติดเตียงกันเนี่ย เพราะว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนที่ป้องกันโควิดในครั้งนี้ สอบถามทางโทรศัพท์แล้ว ก็มีความสงสัยว่ามันมีความรุนแรงขนาดนี้เลยหรือ ตนจึงเดินทางลงพื้นที่มาดู และพบว่าจริงอย่างที่ลูกสาวและน้องสาวเขาโทร.ไปร้องเรียน คุณตาล้วน ก็นอนติดเตียงมาร่วมเดือนแล้ว คุณป้า ก็เช่นกัน สอบถามแล้วพบว่า ไปฉีดวัคซีนที่เดียวกันวันเวลาไล่เรียงกัน และก็เป็นวัคซีนชนิดเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่กลับมาแล้วไม่กี่วัน ก็มีอาการเดินไม่ได้ตั้งแต่นั้นมาก็นอนติดเตียงมาโดยตลอด เท่าที่สอบถามแล้วก็แนะนำว่าอันนี้ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการได้รับวัคซีนโควิดในครั้งนี้ตามประกาศของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นการยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาเบื้องต้น กรณีนี้ก็เป็นตามข้อ 5(3) ก็คือ เจ็บป่วย ที่ได้รับผลกระทบ ถ้าพร้อมก็จะเป็นพรุ่งนี้ไปยื่นขอรับเงินเยียวยาเบื้องต้นกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวน ที่จริงแล้วตามประกาศชัดเจนนะครับว่า การยื่นเยียวยาเบื้องต้นไม่จำเป็นต้องรอการพิสูจน์ถูกผิด ประกาศเขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถยื่นรับเงินเยียวยาเบื้องต้น โดยที่ไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิดให้ทายาทไปดำเนินการ โดยพรุ่งนี้จะให้ญาติไปยื่นที่ สสจ.นนทบุรี พอเราไปยื่น สปสช.ขั้นตอนตามที่มีประกาศไว้นะครับ คือ พอยื่นเรื่องแล้วเนี่ย ทาง สปสช.เขตสาธารณสุข จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา มี ผอ.เป็นประธาน มีคณะกรรมการรวมกัน ไม่เกิน 5 คน ประกอบด้วย นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อขึ้นมาพิจารณา ในประกาศนี้ให้พิจารณาโดยเร่งด่วน แล้วก็ทำความเห็นว่าอนุมัติหรือไม่อย่างไร ถ้าอนุมัติ อนุมัติเท่าไหร่ และหากทางญาติยังไม่เห็นพ้องด้วยก็มีสิทธิ์จะอุทธรณ์ อุทธรณ์ไปยังเลขาธิการ สปสช. กฎหมายเขียนไว้แล้วนะครับต้องเร่งดำเนินการพิจารณา