ลำปาง - ตำรวจแม่ทะเตรียมยื่นศาลออกหมายจับเฒ่าหื่นวัย 62 ปี..ลวงอนาจารนักเรียนหญิงชั้น ม.1 วัย 12 ปี ทั้งในป่า-บ้านรวม 3 ครั้งซ้อน แม่-ญาติร้องขอความเป็นธรรม นอภ.อีกทาง เผยลูกคนก่อเหตุ โทร.ไกล่เกลี่ยชดใช้ อ้างไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาล
วันนี้ (22 ก.ย. 64) นางเอ (นามสมมติ) ได้พาน้องบี (นามสมมติ) ลูกสาววัย 12 ปี ซึ่งกำลังเรียนชั้น ม.1 เข้าให้ข้อมูลและร้องขอความเป็นธรรมต่อ นางสุรีย์ มาปลูก นายอำเภอแม่ทะ จ.ลำปาง โดยมี พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ สิงทองลา ผกก.สภ.แม่ทะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำปางร่วมรับฟังและบันทึกข้อมูล
นางสุรีย์ นายอำเภอแม่ทะ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ผกก.สภ.แม่ทะ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ทางผู้ปกครองได้พาลูกสาววัย 12 ปีเข้าแจ้งความไว้ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 64 ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้เป็นที่เรียบร้อยและพาเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแม่ทะ แต่ด้วยโรงพยาบาลแม่ทะไม่สามารถตรวจได้จึงต้องรอผลจากโรงพยาบาลลำปาง
เบื้องต้นแม่เด็กให้ข้อมูลว่าได้เลิกกับสามี และตนมีสามีใหม่อยู่ต่างหมู่บ้าน จึงให้ลูกสาวอยู่กับตา อายุ 84 ปี เพียงสองคน แต่จะแวะเวียนมาหาตลอด กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแม่แวะมาหาเห็นลูกมีอาการผิดปกติจึงได้พยายามเค้นถาม จนลูกสารภาพว่าถูกนายเค (นามสมมติ) อายุ 62 ปี ซึ่งอยู่ต่างตำบล แต่มักจะแวะไปมาหาสู่กับคนในหมู่บ้าน ล่อลวงทำอนาจารถึง 3 ครั้งตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแลกกับการให้เงินใช้ เมื่อแม่ทราบเรื่องจึงได้มีการพูดคุยกันนำมาสู่การพาลูกเข้าแจ้งความดังกล่าว
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายของเด็กและเตรียมขอศาลออกหมายจับนายเค เนื่องจากทราบจากญาติว่านายเคได้หายออกจากบ้านไป 3 วันแล้วไม่ทราบอยู่ที่ไหน ซึ่งก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามตัวอยู่ ส่วนการสอบสวนจะมีการนัดทั้งแม่และเด็กมาให้ปากคำพร้อมกันกับสหวิชาชีพอีกครั้ง
ขณะที่นางสาวซี (นามสมมติ) ญาติของเด็กผู้เสียหาย ได้นำคลิปเสียงการสนทนาระหว่างลูกสาวนายเคผู้ถูกกล่าวหาที่โทร.มาขอเจรจากับอาของเด็กผู้เสียหาย เปิดให้ผู้สื่อข่าวฟัง พบว่าลูกสาวผู้ถูกกล่าวหาได้พยายามบอกอาของเด็กว่า..อยากให้มีการพูดคุยเจรจาตกลงค่าเยียวยากันแทนที่จะต้องไปแจ้งความขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะนอกจากจะเสียเวลา เสียเงินจ้างทนายความแล้ว ก็จะทำให้เสียชื่อเสียงด้วย และไม่สามารถกลับไปแก้ไขเรื่องที่มันเกิดขึ้นได้แล้ว อยากให้ทางครอบครัวเด็กได้รับการเยียวยามากกว่า
นางสาวซี ญาติของเด็กหญิงบีผู้เสียหาย เล่าว่า นายเคอยู่ ต.บ้านบอม คนละตำบลกับเด็ก แต่ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร ที่ผ่านมากว่า 10 ปีนายเคก็ไปมาหาสู่กับคนในหมู่บ้านและคนข้างบ้านของเด็ก ซึ่งเด็กบอกว่าก่อนหน้านั้นนายเคได้ขอเบอร์และโทร.มาหา จนกระทั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมานายเคได้ติดต่อมาและขอมีอะไรกับเด็ก โดยหลอกล่อเด็กว่าจะส่งเสียให้เรียนจบชั้นมัธยมและให้เงิน
กระทั่งเด็กหลงเชื่อ เพราะเด็กอยู่กับตาและฐานะยากจนจึงต้องการเงินด้วยจึงยินยอม โดยครั้งแรกนายเคได้ชักชวนเด็กไปล่วงมะเมิดในป่า ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน และครั้งที่ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เข้ามาล่วงละเมิดในห้องนอนของเด็กที่บ้าน ซึ่งเด็กจะนอนอยู่ภายในห้องนอนชั้นล่าง ส่วนตาจะนอนอยู่ชั้นบนจึงไม่ทราบเรื่อง
“จนแม่เด็กมาหาลูกและพบว่าลูกมีอาการผิดปกติจึงเค้นถามจนทราบเรื่องที่เกิดขึ้นและพามาแจ้งความ ซึ่งทางฝ่ายผู้ก่อเหตุก็พยายามโทร.มาเกลี้ยกล่อมเพื่อขอยุติเรื่องมาโดยตลอดแต่ทางแม่เด็กไม่ยินยอม”
