MGR Online - ปคบ.ร่วม สบส. รวบหมอเสริมความงามปลอม ตีเนียนนำใบประกอบวิชาชีพแพทย์หญิงคนอื่นสมัครงานคลินิก พบเคยถูกจําคุก 7 ปี เพิ่งพ้นโทษ
วันนี้ (8 ต.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. แถลงผลการจับกุม น.ส.ณัฐชานันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาใช้เอกสารของแพทย์หญิงสมัครทำงานเป็นแพทย์นอกเวลาในคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง พบประวัติเคยถูกจับ 2 ครั้ง ศาลสั่งจาคุก 7 ปี เพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือน ส.ค.2564 กลับมากระทำความผิดซ้ำอีก
พล.ต.ต.อนันต์ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏสื่อสังคมออนไลน์ ว่า มีบุคคลใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Puguntong pacharamonna” โพสต์ข้อความและภาพถ่ายของบุคคลสวมเสื้อกาวน์แพทย์ ปักชื่อของแพทย์ผู้อื่น ทำหัตถการด้านศัลยกรรมความงามอยู่ในสถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง โดยการตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวได้แอบอ้างนำใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรมของแพทย์หญิงท่านหนึ่งมาใช้สมัครงานเป็นแพทย์นอกเวลาในสถานเสริมความงามหลายแห่ง
พล.ต.ต.อนันต์ เผยว่า ปคบ. ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำแพทย์หญิงที่ถูกนำใบอนุญาตวิชาชีพเวชกรรมไปใช้ , เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งย่านบางแคที่ผู้ต้องหานำเอกสารของแพทย์หญิงไปใช้เพื่อสมัครทำงานเป็นแพทย์นอกเวลา และผู้เสียหายที่เข้ารับการทำหัตถการ จนสามารถยืนยันได้ว่าผู้ต้องหารายนี้คือ น.ส.ณัฐชานันท์ จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับ กระทั่ง วันที่ 7 ต.ค. 2564 ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ทำการจับกุม น.ส.ณัฐชานันท์ พร้อมตรวจยึดของกลาง เป็นชุดที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะทำงานหัตถการ จำนวน 5 ชุดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“จากการสอบสวน น.ส.ณัฐชานันท์ รับสารภาพว่า ได้โพสต์กระทู้ในเว็บไซต์อ้างว่าตัวเองจะเปิดคลินิกเสริมความงาม ต้องการรับสมัครแพทย์มาทำงานโดยให้ส่งเอกสารมาให้ทางไลน์ เมื่อได้รับเอกสารจากแพทย์ จะคัดเลือกแพทย์หญิง ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับตน จากนั้นจึงนำเอกสารดังกล่าวมาใช้สมัครทำงานในคลินิกเสริมความงามในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวนหลายแห่ง”
เบื้องต้น เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ใช้คําหรือข้อความอื่นใดที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม” รวมทั้ง ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐาน “ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์สิน” และ “เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะ เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า น.ส.ณัฐชานันท์ เคยถูกดำเนินคดี จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2556 กระทำความผิด ฐาน “ร่วมกันนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ, ร่วมกันฉ้อโกง ประชาชน, ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลและประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันปลอม และใช้เอกสารราชการปลอม, ปลอมและใช้บัตรประชาชนปลอม ขายหรือสั่งเข้ามาซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต“ ศาลพิพากษา จำคุก 7 ปี และ ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2559 กระทำความผิด ฐาน “ลักทรัพย์, เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม