ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ 8 ต.ค.นี้ หลังม็อบคณะราษฎรฟ้องเพิกถอน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์), นางชุมาพร แต่งเกลี้ยง ตัวแทนกลุ่มเฟมินิสด์ปลดแอก และ นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ แนวร่วมม็อบคณะราษฎร ได้ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์, สำนักนายกรัฐมนตรี, กองบัญชาการกองทัพไทย, กระทรวงการคลัง, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำเลยที่ 1-6 ขอให้เพิกถอนข้อกำหนดที่ออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และละเมิดเรียกทุนทรัพย์ชดใช้ 4,500,000 บาท เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้ฟ้องยังขอคุ้มครองชั่วคราวและขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินให้ระงับการบังคับใช้ประกาศและข้อกำหนดทั้ง 2 ฉบับ
โดยศาลแพ่งรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ พ.4639/2564 โดยกำหนดนัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางการดำเนินคดีหรือสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 31 ม.ค. 2565 เวลา 09.00 น.
โดยในส่วนของคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวนั้น ภายหลังมีการไต่สวนพยานจนเสร็จสิ้น ศาลแพ่งได้นัดฟังคำสั่ง คำขอคุ้มครองชั่วคราวในวันศุกร์ที่ 8 ต.ค. เวลา 13.30 น.
สำหรับคดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า โจทก์ทั้งสามคนซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบฯ จากการร่วมปราศรัยในการชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการเมือง ชุมนุมเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2564 ซึ่งข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวเป็นการจำกัดการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ที่ต้องได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย