MGR Online - “รองฯ ต๊ะ” สรุปไทม์ไลน์ชุมนุม 11 ส.ค. ดำเนินคดีแล้ว 7 ข้อหา รวบ 17 ราย พบใช้ความรุนแรงฝ่าแนวกั้น ตำรวจ 2 นาย ถูกรุมทำร้าย รถยกตำรวจถูกเผา 2 คัน ยันม็อบจุดประทัดยักษ์เอง ก่อนระเบิดใส่มือขาด ขอแสดงความเสียใจกับผู้บาดเจ็บ เตือนคนโพสต์บิดเบือนผิด พ.ร.บ.คอมพ์ ขู่เอาผิดผู้ปกครองปล่อยเยาวชนก่อความรุนแรง
วันนี้ (12 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีการชุมนุม เมื่อวานนี้ (11 ส.ค.) ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่า ไทม์ไลน์เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่ เวลา 14.45 น. กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 15.45 น. ได้ทำกิจกรรมทุบศาลและเผาหุ่น ก่อนที่ตำรวจเข้ารักษาความสงบเรียบร้อย เวลา 15.50 น. มีการขว้างปาสิ่งของ อาทิ ขวดน้ำ ก้อนหิน ประทัดยักษ์ และยิ่งพลุใส่ตำรวจ จึงทำการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จำนวนหนึ่ง เวลา 15.55 น. แกนนำกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้าได้ประกาศยุติการชุมนุม
จากนั้นผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังคงปักหลักที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และพื้นที่โดยรอบ เวลา 16.30 น. ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนตัวไปสามเหลี่ยมดินแดง ตำรวจได้ประกาศแจ้งเตือนว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขอให้ยุติการชุมนุม รวมทั้งได้แจ้งเตือนไม่ให้ละเมิดเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม เพื่อความปลอดภัย ไม่กระทบ หรือกีดขวางการทำงานของตำรวจ แต่ผู้ชุมนุมไม่เชื่อฟังพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ โดยรื้อรั้วลวดหนาม และฝ่าแนวสิ่งกีดขวางที่ตำรวจได้วางไว้ เวลา 17.30 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนได้ทุบทำลายรถยนต์ของทางราชการ และใช้เพลิงเผารถยกของตำรวจเสียหาย 2 คัน สามารถจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ 17 ราย เป็นชาย 15 คน หญิง 2 คน (ผู้ใหญ่ 15 ราย เยาวชน 2 ราย)
บช.น.ได้สั่งการให้ สน.ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าว ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมในความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ตามมาตรา 215, ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ ตามมาตรา 296, วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ตามมาตรา 217, ทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 เบื้องต้นตำรวจได้รับบาดเจ็บ 8 นาย ส่วนใหญ่ถูกยิงด้วยพลุเพลิง พลุไฟ ดอกไม้ไฟ มีตำรวจ 2 นาย ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสงบเรียบร้อย ถูกผู้ชุมนุมรุมทำร้าย และทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินส่วนตัว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า กรณีเกิดเหตุระเบิดในกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นเหตุให้ชายรายหนึ่งมือฉีกขาด แล้วมีทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “ตำรวจเอาประทัดยักษ์ ยัดใส่มือผู้ชุมนุมทำให้แตก เกินไปหรือเปล่า #ม็อบ11สิงหาคม” ขอชี้แจงว่า มีผู้ชุมนุมรายหนึ่งจุดประทัดยักษ์ เตรียมทำร้ายโดยขว้างปาใส่ตำรวจ แต่กลับระเบิดขึ้นก่อนจนได้รับอันตราย ตำรวจขอแสดงเสียความใจต่อผู้บาดเจ็บด้วย ส่วนการดำเนินคดีนั้นผู้ชุมนุมมีความผิด พ.ร.บ.ฉุกเฉินฯ อยู่แล้ว ถ้ามีส่วนก่อความไม่สงบเรียบร้อย จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นทราบตัวบุคคลดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ขอเตือนกลุ่มที่พยายามนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2560 ตามมาตรา 14 รวมถึงผู้ส่งต่อ หรือเผยแพร่ ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ สำหรับผู้ชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงส่วนใหญ่เป็นเยาวชนนั้น อยากฝากเตือนไปยังผู้ปกครอง ให้ใส่ใจดูแลบุตรหลานของตัวเอง เนื่องจากอาจจะถูกชักจูง หลอกลวง หลอกล่อ หรือให้เชื่อ เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองเข้าร่วมชุมนุม และถ้าพบว่ามีส่วนในการปล่อยปละละเลย ตำรวจจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งเป็นหลักสากลทั่วไป