MGR Online -“วิญญัติ” ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ตั้งกรรมการสอบวินัย รอง ผบช.น.กรณีห้าม Call Out มีเจตนาข่มขู่ให้หวาดกลัว สร้างความสับสน ชี้ รัฐบาลไม่ใช่นิติบุคคล การวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตสามารถทำได้ ขู่เอาผิด ม.157 หากยังดำเนินคดีกับ ปชช.
วันนี้ (27 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ ให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการทางวินัยกับ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กรณีที่หลายคนสงสัยว่า พล.ต.ต.ปิยะ ยกคำว่า “รัฐบาลฆาตกร” และยกตัวอย่างข้อความอื่นตามที่ปรากฏเป็นข่าว ห้ามประชาชน ดารา call out พูด หรือโพสต์มีความผิดตามคำพิพากษาศาลฎีกาจริง และบิดเบือนหรือมีเจตนาสร้างข้อความให้ประชาชนสับสน ตื่นตระหนก หวาดกลัว หรือไม่
นายวิญญัติ กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ โดยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ทั้งนี้ ไม่สามารถเปิดเผยหนังสือนี้ได้ เนื่องจากเป็นหนังสือร้องเรียน แต่สาระสำคัญที่มาในวันนี้มี 3 เรื่อง เรื่องแรก ท่าทีของตำรวจโดยเฉพาะท่าทีของรอง ผบช.น.ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีการออกมาแสดงความคิดเห็น หรือ call out ของดารา นักร้อง ผู้มีชื่อเสียงในสังคมว่าเป็นความผิด ซึ่งพฤติการณ์ได้มีการยกตัวอย่าง 3 ประโยคที่เป็นความผิด การทำลักษณะนี้มองได้ว่าเป็นการขู่ดำเนินคดีกับประชาชน และทำให้ประชาชนหวาดกลัวหรือตกใจ สิ่งสำคัญคือประชาชนสับสนกับการใช้ชีวิต ใช้เสรีภาพของพวกเขา เพราะสิ่งที่ประชาชนพูด หรือดาราเหล่านั้นพูดคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคม และเป็นการสะท้อนความคิดเห็นที่อยากให้ประชาชนหรือผู้ได้รับผลกระทบได้รับสิ่งดีๆ ให้สมกับเงินภาษีที่เก็บและงบประมาณแผ่นดินที่ใช้ไป
“สิ่งที่รอง ผบช.น.แสดงออก เราเห็นว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ท่าทีแบบนี้ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาในประเทศชาติมากขึ้น เราเห็นว่าตำรวจจะต้องดำรงตนอย่างมีเกียรติภูมิ ต้องดำรงไว้ซึ่งความเชื่อมั่น ศรัทธา ต่อประชาชน โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นองค์กรตำรวจที่จะใช้กฎหมายที่เป็นธรรมและวางตัวเป็นกลาง ไม่ใช้อำนาจหรือความพึงพอใจส่วนตัว หรือการเลือกปฏิบัติที่ทำให้เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น” นายวิญญัติ กล่าว
นายวิญญัติ กล่าวว่า เรื่องต่อมาขอแสดงความชื่นชม และขอขอบคุณดารา นักร้อง คนที่มีชื่อเสียงต่างๆ ที่ออกมาสะท้อนความคิดเห็น พวกท่านแสดงความเป็นมนุษย์ และมีความกล้าหาญ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป หากตำรวจยังยืนยันที่จะดำเนินคดีกับพวกท่าน พวกเราในฐานะสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ ทำคดีการเมือง สิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนมาร่วม 10 ปี พวกเราขออาสาที่จะช่วยพวกท่านเพื่อปกป้องสิทธิของประชาชน ส่วนเรื่องสุดท้ายซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ขอฝากไปถึงบุคคลที่มีตำแหน่งจากทำเนียบ บุคคลที่อ้างคำสั่งแต่งตั้งจากทำเนียบ หรืออ้างคำสั่งแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี ที่มาแจ้งความกล่าวหาดำเนินคดีกับบุคคลหลายคนทำให้ประชาชนเดือดร้อน ขอเรียกร้องให้แสดงหนังสือหลักฐานให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนหายสงสัย
นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ถ้อยคำดังกล่าวยังไม่เคยมีความผิดตามคำพิพากษาของศาลฎีกา เนื่องจากคำว่า “รัฐบาล” ไม่ถือว่าเป็นบุคคล หรือ นิติบุคคล การที่บุคคลใดกล่าวถึงและวิจารณ์ด้วยความสุจริตไม่ถือว่ามีความผิด รวมทั้งการวิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีนก็เห็นว่าเป็นความเห็นของประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรัฐ ซึ่งเป็นความจริงที่เกิดขึ้น ดังนั้น ที่ รอง ผบช.น. ออกมายกตัวอย่างคำพูดที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย อาจจะเป็นการบิดเบือนทำให้ประชาชนสับสน ตื่นตระหนก หวาดกลัว จึงต้องการให้ ผบ.ตร. มอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และพิจารณาทางวินัย และหากมีการดำเนินคดีกับบุคคลที่พูดข้อความดังกล่าว ทางสมาพันธ์ฯ ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะอาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่เชื่อว่าเป็นการเข้าใจผิดของตำรวจที่ออกมายกตัวอย่างคำพูดดังที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับผู้ที่อ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากบุคคลในรัฐบาลมาแจ้งความดำเนินคดีแทน ก็จะดำเนินการตรวจสอบควบคู่กันไปด้วยว่าได้รับมอบอำนาจจริงหรือไม่ รวมทั้งมีการสั่งการให้ดำเนินคดีกับประชาชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตหรือไม่