MGR Online - จตช.ยันไม่หนักใจ หลัง ผบ.ตร. เซ็นตั้งเป็น ประธาน กก.สืบสวนข้อเท็จจริง “พล.ต.อ.” เกี่ยวข้องเปลี่ยนความเร็วรถ คดี “บอส อยู่วิทยา” นัดคณะทำงานถกนัดแรก 21 ก.ค.นี้
วันนี้ (19 ก.ค.) มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 289/2564 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการ
ใจความว่า ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 481/2563 ลงวันที่ 21 กันยายน 2563 แก้ไขเพิ่มเติมตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 530/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 666/2563 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2563 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ กับพวกรวม 7 นาย กรณีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 385/2563 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 ตรวจพบข้อบกพร่องเพิ่มเติมของข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญานายวรยุทธ อยู่วิทยา อันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย นั้น
เนื่องด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 225/2563 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ซึ่งสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญากับนายวรยุทธ อยู่วิทยา เป็นการกล่าวหาว่า มีการร่วมมือกันอย่างเป็นระบบของเจ้าหนักงานในกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทนายความ พยาน และบุคคลทั่วไป ในการเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการดำเนินคดีจนถึงปัจจุบัน โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อิทธิพลบังคับ และการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งที่ 551/2563 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2563 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาและเสนอความเห็น เพื่อดำเนินการตามรายงานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ปรากฏว่า มีข้าราชการตำรวจถูกระบุชื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญากับนายวรยุทธ อยู่วิทยา อีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากที่ถูกกล่าวหาไว้แล้ว จึงเป็นกรณีหน่วยงานอื่นแจ้งให้ทราบว่า มีข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัย หรือสงสัยว่ากระทำผิดวินัย เป็น พล.ต.อ. 1 ราย พล.ต.ท. 1 ราย และ พ.ต.อ. 2 ราย
กรณีถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ร่วมกันจัดให้ รศ.สายประสิทธ์ เกิดนิยม พบกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น เพื่อนำเสนอวิธีการคำนวณความเร็วใหม่และสอบปากคำ พันตำรวจเอก ธนสิทธิ แตงจั่น โดยแก้ไขวันสอบปากคำให้เป็นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 และวันที่ 2 มีนาคม 2559 โดยการกดดันหรือใช้อิทธิพลบังคับให้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น เปลี่ยนความเห็นในเรื่องความเร็วรถยนต์ (รายละเอียดปรากฏตามบทสรุปรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2563)
และเนื่องจากการสืบสวนเพิ่มเติมดังกล่าว ประธานกรรมการต้องเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรมีตำแหน่งและยศไม่ต่ำกว่าผู้ถูกกล่าวหา จึงมีเหตุอันสมควรหรือจำเป็นที่จะต้องเพิ่มจำนวนผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสืบสวนเพื่อทำหน้าที่ประธานกรรมการ
อาศัยอำนาจตามความใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 84 และมาตรา 94 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556 ข้อ 10 และข้อ 13 จึงแต่งตั้งให้
1. พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการแทน พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จเรตำรวจ (สบ 8) (หัวหน้าจเรตำรวจ)
2. พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จเรตำรวจ (สบ 8) (หัวหน้าจเรตำรวจ) เป็นกรรมการ
โดยให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 481/2563 ลงวันที่ 21 กันยายน 2563 แก้ไขเพิ่มเติมตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 530/2563 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2563 คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 666/2563 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2563 และตามคำสั่งนี้ ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องที่ได้กล่าวหาไว้แล้วและข้อกล่าวหาเพิ่มเติมดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการสืบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดใน กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสืบสวนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เห็นว่า กรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่ง หรือกรณีที่การสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่าข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำในเรื่องที่สืบสวนนั้นอยู่ด้วย ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว
ด้าน พล.ต.อ.วิสนุ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ตนเป็นประธานกรรมการแทน พล.ต.ท.เชษฐา เนื่องจากต้องมีการสอบสวนนายตำรวจยศ พล.ต.อ. เพิ่มเติม ประธานกรรมการสอบจึงต้องเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรมีตำแหน่งและยศไม่ต่ำกว่าผู้ถูกกล่าวหา หลังจากนี้ต้องตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่ได้รับมาเพื่อทำงานต่อ ตนไม่ทราบว่าผลสอบสวนจะเป็นอย่างไร ส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจ และปกติไม่เคยทำอะไรช้า เบื้องต้นจะนัดประชุมคณะทำงานเรื่องนี้ในวันที่ 21 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. หากมีความคืบหน้าจะเปิดเผยให้สื่อมวลชนทราบต่อไป