xs
xsm
sm
md
lg

“พชร” ประธาน ก.อ.ขีดเส้นอีกรอบ สอบ “เนตร นาคสุข” ให้เสร็จ 31 ก.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 นายพชร ยุติธรรมดำรงประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)
ประธาน ก.อ.ขีดเส้นอีกรอบ สอบ “เนตร นาคสุข” ให้เสร็จ 31 ก.ค.นี้ ส่วน “ปรเมศวร์” โดนคดีเมาแล้วขับ ถือเป็น  ขรก.ผู้ใหญ่ ประพฤติไม่เหมาะสม แต่ข้อหาไม่ร้ายแรง โทษวินัยแค่ตักเตือน จะพิจารณาเพื่อเสนอโปรดเกล้าฯ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (14 ก.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรงประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ประชุม ก.อ.ครั้งที่ 7/2564 โดยมีวาระน่าสนใจเกี่ยวกับการสอบสวนวินัย นายเนตร นาคสุข อดีตรอง อสส.กรณีสั่งไม่ห้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ลูกชายนักธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง

โดยภายหลังการประชุมเสร็จเวลา 16.00 น. นายพชร ประธาน ก.อ.เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา นายเนตรให้ความร่วมมือในการสอบสวนโดยให้ถ้อยคำกับกรรมการชุดของ นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ซึ่งได้พิจารณาประกอบกับรายงานการสอบสวนของอัยการสูงสุด 2 สำนวน คือ ที่ได้รับมอบมาจากคณะทำงานที่มีความเห็นสั่งฟ้องนายวรยุทธใหม่อีกครั้ง กับสำนวนที่ดำเนินการสอบสวนนายเนตรไว้เบื้องต้นแล้ว ส่วนหลักฐานพยานอื่นๆ นายกายสิทธิ์ ก็ได้รวบรวมใกล้เสร็จสิ้นแล้ว โดยจะขยายผลไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่อ้างว่า เป็นอัยการอีกคนหนึ่งเพื่อจะได้สอดคล้องกับการสอบสวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ระบุว่า มีการตั้งเรื่อง เเต่การสอบนายเนตรกับอัยการอีกคนหนึ่ง อาจจะต้องแยกกัน เพราะนายเนตรเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในการสั่งคดีว่าสั่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และสั่งคดีโดยชอบหรือไม่ ส่วนอัยการอีกคนเป็นเรื่องการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของอัยการ เช่น เรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วก็จะต้องไปสอบสวนร่วมกับบุคคลอื่นด้วย ซึ่งบทลงโทษก็จะเเตกต่างกัน เพราะถ้าไม่แยกการสอบสวนนายเนตรก็จะไม่เสร็จสิ้นเสียที แต่ได้พยายามกำชับนายกายสิทธิ์เรื่องการสอบอัยการที่มีส่วนเปลี่ยนแปลงความเร็ว ให้ร่วมมือกับ ป.ป.ช.เพื่อให้ผลการสอบสวนรัดกุมมากขึ้น สำหรับผลสอบสวนนายเนตร อาจจะต้องสรุปผลออกมาก่อน โดยตนให้เวลาภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ส่วนอัยการอีกคนก็ให้สอบโดยเร็ว ซึ่งนายกายสิทธิ์เองก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจ

เมื่อถามถึงกรณี นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการอาญาธนบุรี ที่ถูกศาลพิพากษาในความผิดข้อหาเมาแล้วขับนั้น นายพชร กล่าวว่า วันนี้ก็มีการพิจารณากันเรื่องนี้ซึ่งอัยการสูงสุด ได้เสนอที่ประชุม ว่า เป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรง แต่เนื่องจากนายปรเมษฐ์ เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ การที่เมาแล้วขับเป็นสิ่งที่ไม่ควรประพฤติอย่างยิ่ง จึงให้ทำบันทึกว่ากล่าวตักเตือนและกำชับไม่ให้ปฏิบัติตัว ลักษณะดังกล่าวและประพฤติตามคำสั่งศาล ที่พิพากษาลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นการรอลงอาญา หรือการรายงานตัว การบำเพ็ญประโยชน์ อย่างเคร่งครัด ส่วนในเรื่องการพิจารณาตำแหน่งก็ยังดำเนินการตามปกติ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าเหตุเมาแล้วขับนั้นไม่ได้เป็นพฤติกรรมที่เสื่อมเสียร้ายแรง หรือ เจตนาทุจริต อีกทั้งอัยการสูงสุดได้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร ก็เห็นควรให้เสนอบัญชีรายชื่อเพื่อพิจารณาโปรดเกล้าฯต่อไป

โดยจะมีการนัดประชุม ก.อ.อีกครั้งในวันที่ 18 ส.ค.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น