MGR Online - รองโฆษก ตร.เผย ตำรวจมอนิเตอร์เฟกนิวส์ 100 URL แยกดำเนินคดีได้ 50 คดี ในจำนวนนี้เป็นเรื่องวัคซีนโควิด โดยเฉพาะปลอมแปลงข้อมูล ในวิกิพีเดียของนายแพทย์ พิสูจน์ทราบตัวบุคคลแล้ว อยู่ระหว่างร้องทุกข์กล่าวโทษ
วันนี้ (12 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.สอท.ในฐานะรองโฆษก ตร.กล่าวว่า กรณีการดำเนินการกับผู้ที่ปล่อย หรือแชร์ข่าวปล่อม (เฟกนิวส์) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1-30 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างจริงจัง สำหรับสถิติการมอนิเตอร์เรื่องเฟกนิวส์ประมาณหลัก 100 URL แต่เมื่อมีการมอนิเตอร์สามารถกลั่นกรอง และแยกดำเนินคดีได้ ประมาณ 50 กว่าคดี ในจำนวน 50 กว่าคดีนั้น เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน และโควิด-19 ประมาณ 30 คดี โดยเฉพาะคดีที่มีการปลอมแปลงข้อมูล ในวิกิพีเดียของนายแพทย์ท่านหนึ่งเป็นคดีที่ได้รับความสนใจ
นอกจากนี้ ยังเป็นคดีที่เกี่ยวกับการนำเข้าวัคซีนยี่ห้อหนึ่ง โดยแอบอ้างว่ามีการนำเข้าในลักษณะที่เสียภาษี ทำให้ประชาชนที่ประสงค์จะฉีดวัคซีน ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น เป็นลักษณะในการกล่าวหาการทำงานของรัฐบาล มีการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้กระทำความผิดแล้ว อยู่ระหว่างการร้องทุกข์กล่าวโทษตามระเบียบ และจะมีการดำเนินการจับกุม รวมถึงสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้ทราบต่อไป การดำเนินการเหล่านี้ได้รับรายงานว่า มีตำรวจ หรือท้องที่ที่เกี่ยวข้องได้รับคดีไว้เรียบร้อยแล้ว
“อยากฝากเตือนผู้ที่ไม่ประสงค์ดี อาศัยช่วงที่รัฐบาล หรือประชาชนได้รับความลำบากสร้างข่าวปลอม ข่าวเท็จ และแชร์เพื่อให้เกิดความตื่นตระหนก หรือเหล่ามิจฉาชีพที่หวังในเรื่องทรัพย์ หรือผลประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ การกระทำของท่านถือว่าเป็นความผิด เบื้องต้นมีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อัตราโทษอย่างต่ำ 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และยังเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และกฎหมายอื่นๆ ผู้ที่ยังคิดทำในลักษณะแบบนี้ควรเลิกทำ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินคดีกับพวกท่านอย่างจริงจัง” รองโฆษก ตร.กล่าว