xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : “สลิ่มแดง-ติ่งส้ม” ตีกันเละ ใต้เกม “ระบอบ 3 ป.”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 22 มิถุนายน 2564 ตอน “สลิ่มแดง-ติ่งส้ม” ตีกันเละ ใต้เกม “ระบอบ 3 ป.”



ศึกการแก้ไข รธน. ครั้งนี้ ไม่ใช่การชิงดีชิงเด่นระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านเช่นปกติ แต่การต่อสู้ที่ดุเดือดกลับเป็นพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน เพราะมีจุดยืนต่างกัน

โดยพรรคเพื่อไทยเน้นยุทธศาสตร์เดินทีละก้าวหรือกินข้าวทีละคำ แต่พรรคก้าวไกล ฝันไกลสมชื่อ ถึงขั้นรื้อ รธน. ทั้งฉบับ โดยเฉพาะประเด็นที่เห็นต่างกัน คือ พรรคเพื่อไทยจุดยืนชัดเจนไม่แตะหมวด1-2 แต่พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการแก้ไข รธน. ควรแก้ได้ทั้งฉบับ

อีกทั้ง สองพรรคฝ่ายค้าน ยังมีความเห็นต่างกันเรื่องระบบเลือกตั้ง ทั้งเรื่อง “บัตร 2 ใบ” และ “ระบบการนับคะแนน” ที่ต่างชิงไหวชิงพริบในแบบ ที่พรรคตัวเองได้เปรียบ

ด้วยระบบบัตร 2 ใบ ด้วยระบบนับคะแนน และการแบ่งปัน ส.ส.แบบ รธน.40 หรือ รธน.50 จะทำให้พรรคใหญ่ได้เปรียบ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ แม้แต่ “โทนี่ วู๊ดซัม” ยอมรับในคลับเฮ้าส์ว่า เขาไม่มีปัญหาระบบเลือกตั้งแบบ รธน.40 ประชาชนคุ้นชิน และไม่ให้การเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นเบี้ยหัวแตก

ส่วนที่พรรคก้าวไกล เสนอว่า ถ้าบัตร 2 ใบให้เป็นใช้วิธีการแบบเยอรมัน ทักษิณหรือโทนี่ ว่าไม่ชำนาญ และไม่ทราบ เพราะตนเป็นผลผลิตจาก รธน.40

ทำให้ทั้ง 2 พรรคมีวาทะเชือดเฉือนกันเอง แถมลุกลามมาถึงมวลชนด้วย เริ่มจากที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวจุดยืนพรรคก้าวไกลที่ไม่ร่วมลงเรือกับพรรคเพื่อไทย

ตามมาด้วย “รังสิมันต์ โรม”ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่าการที่พรรคเพื่อไทยไปเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคพลังประชารัฐ ที่เปรียบเป็นอวัยวะหนึ่งของ คสช. ที่เข้ามาชิงพื้นที่ในเวทีสภา เพื่อสืบทอดอำนาจ

หากพรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง จะยิ่งมีความชอบธรรม โดยที่ฝ่ายค้านไปรับรองนั่นเอง อีกทั้งมองว่า ข้อเสนอเพื่อไทยที่ให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบ 2 ใบ ให้มี ส.ส.แบ่งเขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน แทนระบบจัดสรรปันส่วนผสม จะทำให้พรรคต่างๆต้องจมอยู่ใต้แลนด์สไลด์ที่จะเกิดขึ้น
.
ร้าวลึกมาถึงระดับมวลชนฝ่ายค้านด้วยกัน ระหว่าง “แฟนคลับโทนี่-เพื่อไทย” กับ “แฟนคลับสีส้ม” ไม่ลงรอยกัน มีการวัดรอยเท้าฟาดฟันกันเอง นำมาสู่การเคลื่อนไหวของเพจรีเดมหรือกลุ่มเยาวชนปลกแอก ที่โพสต์ข้อความในลักษณะดูแคลนพรรคเพื่อไทย ว่า

แก้ รธน. ปาหี่ เพราะสนใจแต่ที่นั่งในสภา และพรรคต่างๆมุ่งไปที่แก้ไขระบบการเลือกตั้งและการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้มองไปที่ปัญหาโครงสร้างอื่นๆ พร้อมทั้งทำภาพกราฟฟิกทักษิณขึ้นมา พร้อมข้อความพาดหัวว่า “ประชาชนทุบเพดานแล้ว เหตุใดพรรคการเมืองไม่ปีนขึ้นมา” เป็นต้น

ทำให้ “แฟนคลับโทนี่-เพื่อไทย” มองตาเขียว และมองว่าเป็นการ “ผลักมิตรไปเป็นศัตรู” ทำให้พรรคก้าวไกลอยู่ในสภาวะโดดเดี่ยว จึงต้องออกมาเคลื่อนไหวนอกสภาควบคู่ ผ่านคณะก้าวหน้า ที่นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ไปร่วมกับกลุ่ม Re-Solution นั่นเอง

ซึ่งสารของกลุ่มรีเอม-ปลดแอกก็คล้ายกับสิ่งที่นายปิยบุตรกล่าวในวันเดียวกัน ว่า พรรคใหญ่เสนอแก้รายมาตรารอบนี้ เล่นละครตบตา ปาหี่ ราวกับว่าจะทำใหม่ทั้งฉบับเกิดขึ้นไม่ได้ จึงเสนอแก้รายมาตรา รีบกันจนจะแซงคิวร่าง พ.ร.บ.ประชามติ

เป็นเรื่องผิดปกติชัดเจน ที่นักการเมืองบางกลุ่ม สมาชิกรัฐสภาบางพวกกำลังรวมหัวกันต้มประชาชน

ปิยบุตร ยำต่อว่า ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านบางพรรคต้องการเน้นไปที่ระบบเลือกตั้ง เรื่องอื่นเป็นเพียงเครื่องประดับตกแต่ง การแก้ระบบเลือกตั้งครั้งนี้จะมีโอกาสสำเร็จด้วย เปิดทางให้ระบอบประยุทธ์ ได้สืบทอดอำนาจอีกรอบ นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เขาหลอกต้มประชาชน
.
แต่การฟาดฟันกัน ยังไม่จบเท่านี้ “วัน อยู่บำรุง” ส.ส.เพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กโดยอ้างว่าเป็นเสียงสะท้อนจากเอฟซีว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่ออกจากปากพวกนักการเมือง นักกิจกรรมอีเว้นท์ ม็อบอีเว้นท์ จะอยู่บนโซเชี่ยลเป็นกระแสไม่กี่วัน

พอมีเรื่องใหม่มา ก็ย้ายไป ส่วนเรื่องที่พูดแข็งขันเมื่อวันก่อน ก็ลืมไป ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตลอด พอศาสดาด่าใครเรื่องไหน ลูกหาบก็แห่กันไปทางนั้น จึงฝากไปถึงพรรคเพื่อไทยว่า อย่าไปแคร์ อย่าไปบ้าตาม พวกที่ด่าเรียกร้องตำหนิพรรคเพื่อไทย เอาเข้าจริงก็ไม่เลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว

สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะจบอย่างไร ก็เข้าทาง “พรรคพลังประชารัฐ” ที่อยู่ภายใต้กลไก “ระบอบ 3ป.” โดยมี รธน.60 เขียนสกัดไว้ทุกทาง ดังนั้นในการประชุมร่วมรัฐสภาช่วงวันที่ 22 ถึง 24 มิ.ย.นี้ ในวาระการแก้ไข รธน. ต้องจับตาว่าจะมีการ “เล่นแง่-ขบเหลี่ยม” ในสภาอย่างไร ?


กำลังโหลดความคิดเห็น