xs
xsm
sm
md
lg

ประธาน ก.อ.กำชับเร่งสอบ “เนตร นาคสุข” สั่งไม่ฟ้อง “บอส” เสร็จภายใน ก.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ
“พชร” ประธาน ก.อ.ขีดเส้นเร่งสอบ “เนตร” ให้เสร็จเดือน ก.ค.นี้ ชี้ เป็นอัยการอาวุโสอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ต้องมาให้ถ้อยคำ ส่วนเรื่องคลิปเสียง 2 อัยการภูเก็ต เรียกรับสินบน รอ อสส.ลงนามคำสั่ง เพื่อยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 8

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (9 มิ.ย.) นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 6/2564 ซึ่งมีวาระสำคัญเสร็จสิ้น โดยใช้เวลานานเกือบ 5 ชั่วโมง ว่า มีวาระน่าสนใจนอกจากเสนอชื่ออัยการสูงสุดคนใหม่แล้วยังมีความคืบหน้ากรณีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ในคดีขับรถชนคนตาย ภายหลังมีการเปลี่ยนคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมาแล้ว 3 ชุด

ซึ่งคดี นายวรยุทธ หลังจากที่ นายเนตร มีคำสั่งไม่ฟ้องในภายหลังก็มีคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาใหม่กลับความเห็นเป็นสั่งฟ้องคดีเช่นเดิม และยังมีข้อหาเกี่ยวกัยสารเสพติดในร่างกาย ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนเรื่องนายเนตรมีคำสั่งไม่ฟ้องนั้นตนได้กำชับให้กรรมการสอบสวนเร่งดำเนินการรีบสอบสวนโดยเร็ว ส่วนที่อ้างว่ามีอัยการชื่อย่อ ช.ช้าง เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในการเปลี่ยนเเปลงความเร็ว หากสามารถสอบสวนได้เสร็จก่อนก็จะต้องแยกออกมาดำเนินคดี กับกรณีของนายเนตร นาคสุข

ทั้งนี้ ในรายงานของ นายวิชา มหาคุณ ปธ.คณะทำงานที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง ก็มีการกล่าวถึงอัยการ ช.ช้างไว้ แม้ตนจะยังไม่เห็น รายงานของ นายวิชา แต่ได้กำชับไว้แล้วในที่ประชุม ก.อ. ว่าต้องไปสืบมาให้ได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นอัยการใช่หรือไม่และมีพฤติการณ์เป็นอย่างไร ต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่มีละเว้น

เมื่อถามว่า การโปรดเกล้าฯแต่งตั้งอัยการ ที่มีการประกาศราชกิจจานุเบกษาไม่มีชื่อ นายเนตร นาคสุข และ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการคดีอาญาธนบุรีนั้น

นายพชร กล่าวว่า วันนี้มีการพิจารณาในส่วนของนายปรเมศวร์ ที่ศาลมีคำพิพากษาคดีเมาสุราขับรถชน เราก็ต้องมาพิจารณาโดยละเอียดว่าการต้องคดีดังกล่าวนั้นนำไปเทียบเคียงกับกฎหมายอื่น และจะเป็นเรื่องที่ผิดวินัยหรือไม่ เรื่องนี้จึงได้ให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดไปตรวจสอบให้ชัดเจนว่ากรณีการทำความผิดในลักษณะนี้ เป็นความผิดทางวินัยหรือไม่และจะต้องเสนอทูลเกล้าฯอย่างไร ก็ให้รีบไปตรวจสอบและนำกลับมาพิจารณาในเดือนหน้า

เมื่อถามว่าเรื่องการดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส ของนายเนตร ยังต้องดำรงอยู่หรือไม่

นายพชร กล่าวว่า ตอนนี้ นายเนตร นาคสุข ยังเป็นข้าราชการอัยการอยู่ แต่ตนเห็นว่า นายเนตรคงจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสั่งคดีอะไรอีก ส่วนเรื่องพักราชการตอนนี้ยังพักไม่ได้ เพราะยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนวินัย เพราะตนไปดูระเบียบมาแล้วว่าการพักราชการจะต้องโดนวินัยร้ายแรง หรือถูกฟ้องคดีอาญา เมื่อ 2 ข้อนี้ยังไม่ได้ เราก็ยังไม่สามารถสั่งพักราชการได้

ส่วนที่ผ่านมา ถ้าหากนายเนตรไม่ให้ความร่วมมือมาให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการสอบฯ นั้น เป็นเรื่องของทางคณะกรรมการฯต้องเร่งรัดสอบสวน แต่ความจริงแล้วนายเนตรต้องมา ให้ถ้อยคำเพราะยังอยู่ในราชการอยู่ ถ้าไม่มาก็อาจจะถือว่าเป็นการขาดราชการเกิน 15 วัน หรือไม่ จะต้องว่ากันไปอีกเรื่อง เพราะตอนนี้นายเนตรต้องปฏิบัติราชการอยู่ แต่ไม่มาให้ถ้อยคำจะถือไม่มาปฏิบัติราชการใช่หรือไม่ ตรงนี้มันมีระเบียบรองรับอยู่แล้ว การดำรงตำแหน่งของอัยการอาวุโสจะมีความสมบูรณ์ได้คือ มีตำแหน่งของ ก.อ.รองรับไว้ ถ้ามีต้องให้นายเนตรปฏิบัติหน้าที่และรอโปรดเกล้าฯ แต่เมื่อมีเรื่องว่าหากการเสนอโปรดเกล้าฯไม่เป็นการมิบังควรที่จะเสนอไป เราก็ถอดชื่อนายเนตรออกจากการเสนอชื่อโปรดเกล้าฯ ในวันนี้คณะกรรมการควรจะรีบสอบสวนเรื่องการสั่งคดีของนายเนตรให้เสร็จโดยเร็ว เพราะเรื่องไม่ได้สลับซับซ้อน

“ขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในราชการอยู่ เพราะแต่ระหว่างนี้คิดว่าต้องชะลอการปฏิบัติหน้าที่ และเป็นเรื่องของสำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการ การชะลอก็คือ การที่ไม่อาจให้สั่งคดีได้ ภายในเดือน ก.ค. น่าจะต้องได้ข้อยุติในการสอบ” ประธาน ก.อ.ย้ำ

นอกจากนี้ ที่ประชุม ก.อ.ยังได้มีการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการบางคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับคดีความต่างๆ อาทิ อัยการประจำจังหวัดอยุธยาคนหนึ่ง ที่อยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีในชั้นศาล โดยถูกอัยการสั่งฟ้องข้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ ดังนั้น ที่ประชุม ก.อ. จึงมีมติเห็นชอบให้ถอนชื่อออกบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ

ส่วนกรณี 2 อัยการภูเก็ต ที่มีคลิปเสียงเกี่ยวกับเรียกรับสินบน 10 ล้านบาท ในคดีแผ้วถาง ทำลาย ครอบครองป่าในที่ดินอันเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ว่า คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ส่งมา ตอนนี้อยู่ระหว่างรออัยการสูงสุดลงนามคำสั่งส่งกลับไปที่ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 8 ขณะที่การสอบสวนวินัยชั้นต้นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จของอัยการภาค 8 มีความเห็นออกมาแล้วว่ามีการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง
กำลังโหลดความคิดเห็น