มุกดาหาร - นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา “แม่น้องชมพู่” แถลงข่าวเปิดตัวทีมทนายสู้คดีกับฝั่งนายษิทรา-ลุงพล โดยมี “อัจฉริยะ” เป็นที่ปรึกษาใหญ่ มั่นใจชนะคดีแน่ ด้านชาวบ้านกกกอกแห่นำดอกไม้มาให้กำลังใจ ขณะที่แม่น้องชมพู่บอกเหมือนยกภูเขาออกจากอกที่มีทนายเป็นโจทก์ร่วมสู้
ความคืบหน้าการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หลังจากศาลออกหมายจับ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ลุงเขยเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตน้องชมพู่ โดยในส่วนของลุงพล มีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นทนายความ ทางด้านฝั่งของแม่น้องชมพู่ หรือนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา ล่าสุดวันนี้ (9 มิ.ย.) ได้เปิดแถลงข่าว เปิดตัวทีมทนายความ ขอเป็นโจกท์ร่วมต่อสู้คดีให้น้องชมพู่ โดยทีมทนายมี 4 คน มีนายวินัย ชุมสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าทีมทนาย
นายวินัย ชุมสวัสดิ์ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความ เปิดเผยว่า คดีน้องชมพู่ยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน รอส่งอัยการ หากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พวกตน 4 คนก็จะเป็นโจกท์ร่วม แต่หากอัยการสั่งไม่ฟ้องก็จะยื่นฟ้องเอง โดยมีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมเป็นที่ปรึกษาในคดี
สำหรับทนายความ 4 คน ได้แบ่งงานออกเป็น 2 ทีม 2 คนแรกทำคดีน้องชมพู่เพียงอย่างเดียว ส่วนอีก 2 คนที่เหลือจะดูแลคดีปกป้องสิทธิเป็นหลัก ดำเนินคดีต่อคนที่ละเมิดให้ร้ายกล่าวหาทั้งทางแพ่ง และทางอาญา
นายวินัยกล่าวอีกว่า ไม่ได้หนักใจการต่อสู้คดี พวกเราไม่ใช่อัศวินขี่ม้าขาว คนที่เป็นอัศวินคือตำรวจ และเจ้าหน้าที่ และพนักงานอัยการ ที่ให้ความเป็นธรรมต่อผู้เสียหาย กรณีที่มีคนมองว่าคดีความของน้องชมพู่ครั้งนี้เหมือนเป็นการเปิดศึกทนายความของทั้งสองฝ่าย พวกตนไม่ได้สนใจ เป็นแค่วาทกรรม แต่เรื่องจริงคือ แม่คือผู้สูญเสีย ทีมทนายต้องเอาคนทำผิดรับโทษรับกรรมให้สำเร็จ
ด้านนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ กล่าวขอบคุณและดีใจที่มีทีมทนายเข้ามาช่วย ไม่กังวลใจอะไร รวมทั้งหลักฐาน เหมือนยกภูเขาออกจากอก ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว เรื่องเครื่องซินโครตรอนก็ไม่กังวล ทุกอย่างเป็นมาตรฐาน และเชื่อมั่น ตอนนี้โล่งใจ ดีใจ มีความสุข
ขณะที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมในฐานะที่ปรึกษาในคดี กล่าวว่า ตนไม่อนุญาตให้นายสิระมาพบกับคุณแม่ของน้องชมพู่ เพราะเชื่อมั่นในหลักฐาน ไม่ใช่คดีหรือเรื่องทางการเมือง เชื่อมั่นในผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คดีนี้มีความผิดเพี้ยนมาก ผู้สูญเสีย กลับถูกกล่าวหาฆ่าลูกตัวเอง ผู้ต้องหากลับกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ และเชื่อว่าตลอดเวลาที่ลงพื้นที่ 7 เดือนตนพอจะรู้อะไรเป็นอะไร ส่วนอีกฝั่งเพิ่งลงมาทำคดี ก็ฟังแต่ลูกความของตัวเอง รับไม่ได้ ผู้ต้องหากลายเป็นดารา ครั้งนี้ตนเข้ามาช่วยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ส่วนการยื่นคำร้องขอค้านปล่อยตัวชั่วคราว เป็นหลักทั่วไปที่ศาลให้ความเป็นธรรมต่อผู้ต้องหา ถ้ามีการทำผิดเงื่อนไข ก็จะยื่นคำร้องต่อศาลถอนประกันทันที ส่วนสาระการต่อสู้คดีจะไม่ขอเปิดเผย
ทั้งนี้ มีรายงานว่าบรรยากาศการแถลงข่าวเปิดตัวทนายแม่น้องชมพู่เป็นไปอย่างคึกคัก ชาวบ้านบ้านกกกอกและกลุ่มแฟนคลับคุณแม่น้องชมพู่ก็พากันนำดอกไม้มาให้กำลังใจนางสาวิตรีให้ต่อสู้คดีให้ชนะ
