"โฆษก ตร.” ปัดจัด ฮ.วีไอพี ส่ง "ลุงพล" ไปดำเนินคดีที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร ยืนยันไร้สิทธิพิเศษ ย้ำเป็นการจับกุมตามหมายจับ ไม่ใช่มอบตัว หวั่นใช่เป็นช่องขอประกันตัว “ทนายตั้ม” เตรียมหลักทรัพย์ประกันลูกความ เล็งยื่น กมธ.กฎหมายตรวจสอบหมายจับ
จากกรณีที่ตำรวจจับกุม นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหาร ในคดีการเสียชีวิตของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.64 ก่อนนำตัวนายไชย์พลกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.กกตูม จว.มุกดาหาร โดยเฮลิคอปเตอร์ และมี นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ร่วมโดยสารไปด้วย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าได้รับสิทธิพิเศษ นั้น
วานนี้ (3 มิ.ย.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชี้แจงว่า การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบการใช้อากาศยานของ สตช. การเลือกใช้เฮลิคอปเตอร์ลำใดจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร และระยะทางมาประกอบกัน ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ที่ปรากฏในข่าวเป็นเครื่องประจำการที่ใช้ในกิจการหลักของ สตช.อยู่แล้ว ไม่ใช่ ฮ.พิเศษวีไอพี และขอยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ให้สิทธิพิเศษกับผู้ต้องหาคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.ยิ่งยศ ชี้แจงกรณีที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า การจับกุมนายไชย์พลเป็นการรับมอบตัวว่า กรณีนี้ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองรองผู้บังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 (รอง ผบก.ปส.3) ได้เป็นเจ้าพนักงานจับกุมตัว นายไชย์พล โดยได้เข้าแสดงหมายจับ และจับกุมตัวนายไชย์พล ได้บริเวณโถงชั้นล่าง อาคาร 1 สตช. จากนั้นได้ควบคุมตัวนายไชย์พล ส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และลงบันทึกประจำวัน ก่อนส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร และยืนยันว่ากรณีนายไชย์พล เป็นการจับกุมตัวตามหมาย ไม่ใช่การรับมอบตัวแต่อย่างใด โดยตำรวจที่จับกุมนายไชย์พล มีอำนาจ และหน้าที่ในการจับกุมตามหมายอยู่แล้ว หากพบเห็นนายไชย์พล ปรากฏตัวต่อหน้า แล้วไม่ดำเนินการจับกุม อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
“การที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว หรือการจับกุมตัวไม่ได้มีผลในทางกฎหมาย เนื่องจากผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ จะมอบตัวหรือจับกุมตัว ก็ต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา และมีสภาพเป็นผู้ต้องหาอยู่แล้ว แต่การมอบตัว ฝ่ายผู้ต้องหาหรือผู้เกี่ยวข้อง อาจยกขึ้นเป็นเหตุผลในการขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีเหตุผลในเรื่องการไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน หรือของศาลแล้วแต่กรณี” พล.ต.ต.ยิ่งยศ ระบุ
ขณะที่ นายษิทรา ทนายความของนายไชย์พล เปิดเผยว่า ขณะนี้นายไชย์พลไม่ได้มีความเครียดใดๆ และยังมีกำลังใจดี แม้ว่าวันนี้ทางทนายความจะยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ซึ่งเตรียมที่จะยื่นประกันตัวอีกครั้งที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร วันนี้ (4 มิ.ย.) โดยใช้หลักทรัพย์ที่ดิน เเละเงินสด นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยัง นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำคดีนายไชย์พล ที่ไม่ถูกต้องในทุกๆเรื่อง ซึ่งได้นัดหมายกันในวันอังคารหน้า (8 มิ.ย.) โดยขอให้เรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าชี้แจงด้วย โดยเฉพาะการจับกุมนายไชย์พล และ กรณีที่นายไชย์พล เข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งการขออำนาจศาลออกหมายจับ ที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง
ทางด้าน นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ กล่าวว่า วันที่ 4 มิ.ย. ซึ่งตำรวจจะนำตัวนายไชย์พล ไปขออำนาจศาลเพื่อฝากขังระหว่างการสอบสวนที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งมีข่าวว่านางสมพร หรือ ป้าแต๋น จะไปยื่นคำร้องขอประกันตัวนายไชย์พล ที่ศาลจังหวัดมุกดาหารด้วยนั้น ตนก็จะไปยื่นคำร้องคัดค้านเพื่อให้ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายไชย์พลเช่นกัน
จากกรณีที่ตำรวจจับกุม นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหาร ในคดีการเสียชีวิตของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.64 ก่อนนำตัวนายไชย์พลกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.กกตูม จว.มุกดาหาร โดยเฮลิคอปเตอร์ และมี นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ร่วมโดยสารไปด้วย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าได้รับสิทธิพิเศษ นั้น
วานนี้ (3 มิ.ย.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชี้แจงว่า การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบการใช้อากาศยานของ สตช. การเลือกใช้เฮลิคอปเตอร์ลำใดจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร และระยะทางมาประกอบกัน ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ที่ปรากฏในข่าวเป็นเครื่องประจำการที่ใช้ในกิจการหลักของ สตช.อยู่แล้ว ไม่ใช่ ฮ.พิเศษวีไอพี และขอยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ให้สิทธิพิเศษกับผู้ต้องหาคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.ยิ่งยศ ชี้แจงกรณีที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า การจับกุมนายไชย์พลเป็นการรับมอบตัวว่า กรณีนี้ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองรองผู้บังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 (รอง ผบก.ปส.3) ได้เป็นเจ้าพนักงานจับกุมตัว นายไชย์พล โดยได้เข้าแสดงหมายจับ และจับกุมตัวนายไชย์พล ได้บริเวณโถงชั้นล่าง อาคาร 1 สตช. จากนั้นได้ควบคุมตัวนายไชย์พล ส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และลงบันทึกประจำวัน ก่อนส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร และยืนยันว่ากรณีนายไชย์พล เป็นการจับกุมตัวตามหมาย ไม่ใช่การรับมอบตัวแต่อย่างใด โดยตำรวจที่จับกุมนายไชย์พล มีอำนาจ และหน้าที่ในการจับกุมตามหมายอยู่แล้ว หากพบเห็นนายไชย์พล ปรากฏตัวต่อหน้า แล้วไม่ดำเนินการจับกุม อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
“การที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว หรือการจับกุมตัวไม่ได้มีผลในทางกฎหมาย เนื่องจากผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ จะมอบตัวหรือจับกุมตัว ก็ต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา และมีสภาพเป็นผู้ต้องหาอยู่แล้ว แต่การมอบตัว ฝ่ายผู้ต้องหาหรือผู้เกี่ยวข้อง อาจยกขึ้นเป็นเหตุผลในการขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีเหตุผลในเรื่องการไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน หรือของศาลแล้วแต่กรณี” พล.ต.ต.ยิ่งยศ ระบุ
ขณะที่ นายษิทรา ทนายความของนายไชย์พล เปิดเผยว่า ขณะนี้นายไชย์พลไม่ได้มีความเครียดใดๆ และยังมีกำลังใจดี แม้ว่าวันนี้ทางทนายความจะยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ซึ่งเตรียมที่จะยื่นประกันตัวอีกครั้งที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร วันนี้ (4 มิ.ย.) โดยใช้หลักทรัพย์ที่ดิน เเละเงินสด นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยัง นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำคดีนายไชย์พล ที่ไม่ถูกต้องในทุกๆเรื่อง ซึ่งได้นัดหมายกันในวันอังคารหน้า (8 มิ.ย.) โดยขอให้เรียกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าชี้แจงด้วย โดยเฉพาะการจับกุมนายไชย์พล และ กรณีที่นายไชย์พล เข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งการขออำนาจศาลออกหมายจับ ที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง
ทางด้าน นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ กล่าวว่า วันที่ 4 มิ.ย. ซึ่งตำรวจจะนำตัวนายไชย์พล ไปขออำนาจศาลเพื่อฝากขังระหว่างการสอบสวนที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งมีข่าวว่านางสมพร หรือ ป้าแต๋น จะไปยื่นคำร้องขอประกันตัวนายไชย์พล ที่ศาลจังหวัดมุกดาหารด้วยนั้น ตนก็จะไปยื่นคำร้องคัดค้านเพื่อให้ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายไชย์พลเช่นกัน