สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก หอบเอกสารร้องทนายรณณรงค์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูกยี่ปั๊วเบี้ยวส่งโกงลอตเตอรี่สูญเงิน 11 ล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาท
วันนี้ (2 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าบาส หรือ นายสมรักษ์ คำสิงห์ อายุ 48 ปี อดีตนักชกเหรียญทอง จากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ปี 1996 เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม จาก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูกหลอก ให้โอนเงินโดยอ้างว่า มีลอตเตอรี่ ในโควตา สามารถนำไปจำหน่ายทำกำไรได้ ตนเองหลงเชื่อจึงได้ ไปชวนพรรคพวก คนรู้จัก ให้มาลงทุนซื้อลอตเตอรี่ จากยี่ปั๊วที่แอบอ้างว่ามีโควต้าโดยโอนไปกว่า 30 ล้านบาท แต่ไม่ได้ลอตเตอรี่ตามจำนวนที่โอน ยังคงเหลือยอดเงิน ในส่วนที่ขาดอีกกว่า 11 ล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาท จึงได้มาร้องเรียนขอให้ทนายรณณรงค์ ช่วยเหลือดังกล่าว
เจ้าบาส หรือ สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยอารมณ์ดี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองได้รับการชักชวนจากคนรู้จัก ว่าสามารถจัดสรรโควตาลอตเตอรี่ เป็นจำนวนมากให้ไปจำหน่าย สร้างกำไร ให้กับตนเอง และเพื่อนฝูงได้ โดยแนะนำให้ตนรู้จักกับนาง ปารมี หรือหญิงพิทักษ์ อายุ 65 ปี ซึ่งบอกว่ามีโควต้าลอตเตอรี่จำนวนมาก สามารถนำไปจำหน่ายทำกำไรได้ โดยเมื่องวดที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 ตนเองได้จองหวยไปเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่เพื่อนฝูงชาวบ้าน คนรู้จักและไว้ใจตนเอง พากันโอนเข้าบัญชีมาให้เพื่อให้ตน นำไปซื้อลอตเตอรี่จากนางปารมี ซึ่งก็ได้ลอตเตอรี่ มาจำหน่ายตามที่ตกลงกันหลังจากนั้นวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ นางปารมี ได้บอกกับตนว่า มีลอตเตอรี่จำนวนมาก ในโควตาของวันที่ 16 ก.พ. 64 ต้องการไหม ตนเองจึงได้โอนเงินจำนวน 30 กว่าล้านบาท ซึ่งเป็นเงิน ที่ชาวบ้าน เพื่อนฝูง คนสนิท รวมทั้ง โค้ชทีมชาติ นักกีฬาทีมชาติ ที่เป็น พรรคพวกกัน และไว้ใจตนเองให้ไปจัดสรรซื้อลอตเตอรี่มาเพื่อทำกำไร โดย นางปารมี ให้โอนเงินเข้าบัญชีมาให้ ตนจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้กับนางปารมี โดยนางปารมี ได้ให้ตนเองโอนเข้าบัญชีของพรรคพวกเขาหลายชื่อ หลายบัญชี แล้วบอกว่า แบ่งกันไปตามโควต้าของเขาแต่ละบัญชี
เจ้าบาส หรือ สมรักษ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังจากโอนเงินไปแล้ว ปรากฏว่า ตนเอง กลับไม่ได้ลอตเตอรี่ ตามที่โอนเงินไป ในงวดนั้นแต่อย่างใด เมื่อเอ่ยปากทวงถาม จาก นางปารมี ก็ได้รับคำตอบว่า นายใหญ่กำลังประสาน และดำเนินการให้อยู่ แต่เวลาเนิ่นนานผ่านไปหลายเดือนแล้ว ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ตนเองจึงบอกไปว่าจะแจ้งความดำเนินคดีแล้วนะ ทางนางปารมี จึงได้ทยอย ชดใช้ให้มาจนเหลือ ที่ยังค้างอยู่ 11 ล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาท
ซึ่งระหว่างที่สมรักษ์กำลัง ปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวฟังอยู่นั้น ปรากฏว่า นางปารมี ได้โทร.เข้ามาขอให้สมรักษ์ อย่าเพิ่งแจ้งความ หรือร้องเรียนทนายรณณรงค์ เดี๋ยวจะโอนเงินให้เพิ่มอีก 50,000 บาท แต่สมรักษ์ได้ปฏิเสธไป และขอให้ชดใช้ในส่วนที่ยังคงติดค้างไม่ใช่ใช้ให้เพียงแค่นี้ เพราะเงินที่เอาไปเป็นเงินของชาวบ้านคนสนิท พรรคพวก ในวงการ ซึ่งตอนนี้ ตนเองถูกทวงถามทุกวัน บางรายต้องยอมควักกระเป๋าจ่ายให้เขาไป ด้วยความสงสาร ทำให้ตนเข้าเนื้อหมดไป กว่า 3 ล้านบาทแล้ว ขอให้นางปารมี และพรรคพวก นำเงิน มาคืนให้กลับพวกเขาด้วยเพราะตนรู้สึกสงสาร บางรายมาลงทุน 2-3 แสนบาท แต่ก็ถูกโกงไม่ได้ลอตเตอรี่ไปขาย เลี้ยงครอบครัวเลย เจ้าบาส กล่าว
ขณะที่ นายรณณรงค์ เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า คดีนี้ ตนเองจะติดตาม ตรวจสอบ ในด้านเอกสารการโอนเงิน รวมทั้งความเชื่อมโยง ของการซื้อขายลอตเตอรี่ เพราะเท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น ถือว่าเป็นการฉ้อโกง หากผู้แอบอ้างรายนี้ ไม่มีโควตา การจำหน่ายสลากลอตเตอรี่ จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจริงๆ ก็จะเข้าข่าย ฉ้อโกงทันที นายรณณรงค์ กล่าว